3.10.18

แต่แล้วโลกอันนี้น่ะ มันหากเป็นอยู่อย่างนี้ เมื่อมันเกิด มีคนมีสัตว์ขึ้นมาแล้ว มันก็มีสมมุติ มีบัญญัติขึ้นมาพร้อม เพื่อการสังคม ติดต่อ ทำมาหาเลี้ยงชีพร่วมกัน ถ้าหากว่าไม่มีสมมุติบัญญัติขึ้นมาอย่างนั้น มันก็ไม่รู้ว่าจะติดต่อกันอย่างไรได้ อันนี้มันก็เป็นกฎธรรมดาของโลกตั้งแต่ไหนแต่ไรมา สำหรับผู้ที่ยังท่องเที่ยวเกิดแก่เจ็บตายอยู่ในโลกนี้น่ะ

BY Somchatchai IN No comments


หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ..พระพุทธเจ้าทรงสอนให้พิจารณาให้เห็นว่า เป็นแต่สัก แต่ว่าสังขาร เท่านั้นเองแหละ ถ้าโดยปรมัตถธรรมแล้วนะ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ตัวตนเราเขาอะไรเลย เป็นแต่ว่าสังขาร คือสภาพที่ถูกปรุงแต่งให้เกิดขึ้นเป็นขึ้นเท่านั้นแหละ

แต่แล้วโลกอันนี้น่ะ มันหากเป็นอยู่อย่างนี้ เมื่อมันเกิด มีคนมีสัตว์ขึ้นมาแล้ว มันก็มีสมมุติ มีบัญญัติขึ้นมาพร้อม เพื่อการสังคม ติดต่อ ทำมาหาเลี้ยงชีพร่วมกัน

ถ้าหากว่าไม่มีสมมุติบัญญัติขึ้นมาอย่างนั้น มันก็ไม่รู้ว่าจะติดต่อกันอย่างไรได้ อันนี้มันก็เป็นกฎธรรมดาของโลกตั้งแต่ไหนแต่ไรมา สำหรับผู้ที่ยังท่องเที่ยวเกิดแก่เจ็บตายอยู่ในโลกนี้น่ะ

แต่ข้อสำคัญอยู่ที่ว่า

ผู้นั้นน่ะจะติดอยู่ในสมมุตินั้นหรือไม่ติด เนี่ยมันสำคัญอยู่ตรงนี้เองนะ ถ้าผู้ที่ได้ฝึกฝนอบรมจิต มีปัญญาเกิดขึ้นดังกล่าวมาแล้วนั้น มันก็ไม่ติดอยู่ในสมมุติบัญญัติเหล่านั้น ก็พิจารณาเห็นว่า มันเป็นเพียงแค่สมมุติเอาเท่านั้นเอง

สมมุติเอาธาตุดินธาตุน้ำธาตุไฟธาตุลม ซึ่งบุญบาปตกแต่งให้เกิดขึ้นมาเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้วก็ว่าสัตว์ ว่าคน ว่าหญิง ว่าชาย ว่าอะไรต่ออะไรไปตามสมมุติที่ตั้งกันขึ้นมา

นี่ ผู้ภาวนาผู้ปฏิบัติธรรม อบรมปัญญาให้เกิดแล้วมันก็ต้องพิจารณา รู้ แจ้งตามเป็นจริง ในรูปเป็นต้นดังกล่าวมานั่นแหละ ตลอดถึงมารู้ ขันธ์ทั้ง 5 ที่ตนอาศัยอยู่นี่ ก็ให้เห็นสภาพเหมือนกัน ภายใน เป็นอย่างไร ภายนอกก็เป็นอย่างนั้นแหละ ภายนอกเค้าสมมุติกันอย่างไร ภายในก็สมมุติกันอย่างนั้น แต่เมื่อเรารู้แจ้งว่าเพียงแค่สมมุติบัญญัติ

เราก็ไม่ไปขวางโลก เขาว่าไปยังงัย เราก็ว่าตามไป แต่เราไม่หลง ข้อสำคัญมันอยู่ตรงนี้เองนะ

แต่เราไม่หลง ให้พากันคิด เข้าใจให้ดี อันในเมื่อยังมีตาหูจมูกลิ้นกาย อวัยวะ มือเท้าอันนี้อยู่ ตราบใดแล้วจะไม่ให้ สัมผัสถูกต้องกับรูปเสียงกลิ่นรส เครื่องสัมผัสต่างๆพวกนี้ เป็นไปไม่ได้ มันต้องมีอยู่อย่างนี้ ประจำวัน ประจำเวลา แต่ผู้มีสติปัญญา จะไม่หลงเท่านั้นเองแหละ

วางตัวเป็นกลาง ต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆเหล่านี้ ทั้งฝ่ายดี ทั้งฝ่ายชั่ว ทั้งฝ่ายที่ไม่ดี ไม่ชั่ว อะไรก็ ก็ให้กำหนดรู้ตามสภาพ ตามความเป็นจริง เรื่อยไป แต่เราก็อาศัยสิ่งเหล่านี้ล่ะ เป็นอยู่น่ะ ทั้งเป็นนักบวชก็ตาม ผู้ครองเรือนก็ชั่ง ก็ต้องอาศัยธรรมชาติเหล่านี้แหละ อาศัย

ถ้าพูดโดยระบุชื่อแล้วล่ะก็ อาศัย อาหารการบริโภค อาศัยผ้านุ่งผ้าห่ม นี่ อาศัยที่อยู่ที่อาศัย อาศัยหยูกยาแก้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ นี่มันมันเป็นปัจจัยสำหรับชีวิตอันนี้ 4อย่างนี้นะ ขาดไม่ได้เลย..

บางส่วนจาก พระธรรมเทศนา หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ - เกิดแล้วดับ

0 comments:

Post a Comment