..เบื้องต้นก็มาหลงกาย ว่าเป็นตัวตนสัตว์บุคคลเราเขา บั้นปลายก็มาหลงใจ..
..ใจ มันรู้ให้เฉยๆ จึงเรียกว่าใจ
ถ้ามันไปโลภไปโกรธไปหลงขึ้นมา ก็เรียกว่าใจปลอม ใจปฏิรูป ใจนี่แหละเค้าเรียกว่า ไม่มีตัวมีตน เขาจึงเรียกว่านาม นามธรรม นามธรรม เป็นชื่อของธรรม ไม่มีตัวไม่มีตน..
..นี่แหละบัดสิ หายโง่ได้ เขามาตั้งชื่อให้ ตั้งชื่อให้ธรรมชาติอันนี้ ตั้งชื่อให้ธรรม จึงเรียกว่านามธรรม
ใจจริงๆมีไหม ไม่มี มีแต่สภาพรู้รู้อยู่เฉยๆ เขามาตั้งชื่อ ไม่มีตัวไม่มีตน ตั้งชื่อให้ธรรมชาติ ตั้งชื่อให้ธรรมเฉยๆ นามธรรม เป็นชื่อของธรรม ใจหนิคือชื่อของธรรม ใจจริงๆไม่มี ใจคือนามธรรม ใจคือชื่อของธรรม
ต้องมารู้จักต้นมันอย่างงี้ มันจึงจะหายหิว หายโง่หายหลง นามธรรม เป็นชื่อของธรรมเฉยๆ เป็นชื่อของธรรมชาติอันหนึ่ง ธรรมชาติไม่มีตัวไม่มีตน สัตว์บุคคลอยู่ในนี้ ว่างครอบจักรวาลอยู่ ไม่มีกว้างมีแคบ ลึกตื้นหนาบาง ไม่มีสัณฐาน ไม่มีรูปร่าง เป็นชื่อของธรรม
ใจจริงๆมีไหม เขาสมมติขึ้นมา ตั้งชื่อสมมติขึ้นมา สมมติจากธรรมชาติ จึงเรียกว่านามธรรม เป็นชื่อของธรรม ถ้าไม่เข้าใจตอนนี้ก็ตายเปล่าๆ เป็นชื่อของธรรม เป็นนาม นามแปลว่าชื่อ ธรรมชาติอันนี้ไม่มีตัวตนสัตว์บุคคล ว่างเปล่า วิญญาณตัวนี้
เขาจึงตั้งชื่อว่านามธรรม เป็นชื่อของธรรม มันใจ มีหน้าที่ รู้ รู้ รู้ รู้ เฉย จิตแท้ใจเดิม รู้ รู้ เฉย คือ อุเบกขา รู้แล้วก็วาง รู้แล้วก็ไม่ยินดีไม่ยินร้าย จึงเรียกว่าใจ มันเป็นกลางอยู่ มันเป็นธาตุรู้ สภาพรู้อยู่ คนจึงมา ตั้งชื่อสมมติออกจากของไม่มี ตั้งชื่อให้มันมีขึ้นมา..
บางส่วนจาก ใจ
พระธรรมเทศนา โดย หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดง ผานิมิต
0 comments:
Post a Comment