6.7.16

"เมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ผู้มีเพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้นความสงสัยของพราหมณ์นั้นย่อมสิ้นไป เพราะมารู้ธรรมว่ามีเหตุ หรือเกิดแต่เหตุ"

BY Somchatchai IN No comments

..พระพุทธเจ้า เมื่อได้ตรัสรู้แล้ว ได้ประทับนั่งเสวยวิมุติสุข ณ ควงไม้โพธิพฤกษ์ ทรงพิจารณาปฏิจจสมุปบาทธรรมะที่อาศัยกันบังเกิดขึ้น โดยสมุทัยวาร คือโดยวาระเกิด ก่อทุกข์ ทรงเปล่งอุทานในปฐมยามแห่งราตรีที่แปลความว่า

"เมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ผู้มีเพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้นความสงสัยของพราหมณ์นั้นย่อมสิ้นไป เพราะมารู้ธรรมว่ามีเหตุ หรือเกิดแต่เหตุ"

ต่อจากนั้นทรงพิจารณาปฏิจจสมุปบาท โดยนิโรธวาร คือโดยวาระดับ คือดับทุกข์ ทรงเปล่งอุทานในมัชฌิมยามแห่งราตรีแปลความว่า

"เมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ผู้มีเพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้นความสงสัยของพราหมณ์นั้นย่อมสิ้นไป เพราะมารู้ความสิ้นไปแห่งปัจจัยทั้งหลาย"

ต่อจากนั้นทรงพิจารณาปฏิจจสมุปบาท ทั้งโดยสมุทัยวาร ทั้งโดยนิโรธวาร ทรงเปล่งอุทานในปัจฉิมยามแห่งราตรีแปลความว่า

"เมื่อใดธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ผู้มีเพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้นความสงสัยของพราหมณ์นั้นย่อมสิ้นไป พราหมณ์นั้นกำจัดมารและเสนา สถิตย์อยู่เหมือนอย่างดวงอาทิตย์ สถิตย์ส่องสว่างอยู่ในนภากาศ ดั่งนี้"

บางส่วนจาก สัมมาทิฏฐิ ๔๒ อริยสัจจ์โดยพิสดาร

พระธรรมเทศนา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

0 comments:

Post a Comment