ตาเห็นรูปมันจะมาบอกจิต หรือหูได้ยินเสียงมันจะมาบอกจิต ถ้าจิตโง่จิตหลงอยู่ ก็เลยโกรธ เข้าใจมั้ย ถ้าหลงว่า จิตเป็นเรา เราเป็นจิต ใจเป็นเราอยู่

หลวงตาศิริ อินฺทสิริ ..ตาเห็นรูปมันจะมาบอกจิต หรือหูได้ยินเสียงมันจะมาบอกจิต ถ้าจิตโง่จิตหลงอยู่ ก็เลยโกรธ เข้าใจมั้ย ถ้าหลงว่า จิตเป็นเรา เราเป็นจิต ใจเป็นเราอยู่..,

..ทานอะไร ก็ยังไม่เท่าสมาธิ ปรมัตถทาน คือทานขันธ์ 5 ออก นี่ล่ะ ปรมัตถทาน บารมี ปรมัตถบารมี คือจาคะขันธ์ 5 ออก เป็นทานขั้นสูงสุด ทานร้อยครั้งพันครั้งไม่เท่า จิตจาคะขันธ์ 5 ออกครั้งเดียว

จิตจาคะขันธ์ 5 ออก มันจะเห็นองค์พระนิพพาน เข้าใจมั้ย เห็นอารมณ์พระนิพพาน เห็นจิตเป็นธรรมชาติ ธรรมชาติองค์ธรรมชาติหนิแหละ เค้าเรียกว่าองค์พระนิพพาน

เหมือนกับน้ำในทะเล ต้องเค็มหมด น้ำทะเลใช่มั้ย จิตของคน เรานั่งอยู่หนิ ถ้าสงบลงถึงธรรมชาติ ตัวนี้ ก็ไม่เรียกว่าจิตของผู้ใด หญิงชายหญิงหนุ่มหรือแก่ ลงไปถึงจุดนี้ก็เป็นธรรมชาติเหมือนกันหมด ธรรมชาตินี่แหละ เค้าเรียกว่าอารมณ์พระนิพพาน

มันจะสุข รู้เฉย สบาย อยู่หนิ ธรรมชาติอันนี้ ไม่มีเกิด ไม่มีตั้ง ไม่มีไป ไม่มีมา เป็น ธรรมชาติ ไม่มีตัวตนสัตว์บุคคล เขาจึงเรียกว่า นิพพานัง ปรมัง สุญญัง ว่างจากสัตว์ บุคคล ตัวตนเราเขา ไม่มีจุติ เคลื่อนที่ ไม่มีเกิดมีตายอีก

สูญ คือว่าง ว่างจากสัตว์บุคคล ว่างจากตัวตน ว่างจากเราจากเขา ไม่มีเกิดอีก เป็นอมตะจิต อมตะธาตุ ไม่มีตายอีก อกาลิโกจิต อกาลิโกธรรม ไปเห็นชัดๆ นะ ธรรมชาติ ไม่ครอบงำจิตได้ จิตดวงนี้ ต้องเข้าใจอย่างนี้นะ

เราก็มาถือเอาอารมณ์นี้ล่ะ นี่ล่ะวิมุตติสุขที่ว่า ตาเห็นรูปมันจะมาบอกจิต หรือหูได้ยินเสียงมันจะมาบอกจิต ถ้าจิตโง่จิตหลงอยู่ ก็เลยโกรธ เข้าใจมั้ย ถ้าหลงว่า จิตเป็นเรา เราเป็นจิต ใจเป็นเราอยู่

ถ้าเรารู้ว่าใจ ก็สักแต่ว่าเป็นธรรมชาติอยู่นี้ ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเราเขา ด่ามาจึงไม่ถูกใจ ใจจึงอุเบกขา ฝึกอุเบกขานี่ อุเบกขาบารมี อุเบกขาได้ยินก็รู้เฉย

เห็นรูปก็รู้เฉย ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ก็มัชฌิมะ อยู่เมืองพอ พอดี อยู่กลางๆหนิเรียกว่าเมืองพอ เรียกว่าเมืองพระนิพพาน..

บางส่วนจาก 09.หลวงตาศิริ อินฺทสิริ พระธรรมเทศนาช่วงกลางคืน 15 พฤศจิกายน 2558
https://youtu.be/1Y2My90GuBs?t=1h34m2s
(1:34:02 - 1:37:03)