หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ..ถ้ามาเพ่งดูจิตใจตัวเองเข้าไป สังเกตจิตตัวเองไปทุกขณะทุกเวลาไปอย่างนี้ มันก็รู้ได้ ขณะนี้จิตวิตกไปในทางกุศลก็รู้ได้ ขณะนี้จิตใจวิตกไปในทางอกุศล ก็รู้
ถ้าหากว่ามัน ดำหริโกรธใครต่อใครขึ้นมางี้ นั่นแสดงว่ามันดำหริไปทางอกุศล หรือถ้ามันดำหริว่าอยากจะได้ของใคร ของผู้อื่นมาเป็นของตัวอย่างงี้ นั่นก็ชื่อว่าเป็นความดำหริที่เป็นอกุศล
เราต้องรู้ ลักษณะของความคิด ที่เป็นอกุศลอย่างนี้ ถ้าไม่รู้อย่างนี้แล้ว เวลามันคิดไปเช่นนั้น ก็เลยไม่นึกว่าเป็นบาปเป็นอกุศล ก็คิดเรื่อยไป
อย่างบางคน ชอบโกรธ ใครต่อใครมาเป็นประจำ ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ถือว่าเป็นบาปอกุศลอะไรเลยก็มี อย่างงี้แหละ จนติดนิสัย ใครทำอะไรไม่ให้พอใจ มาแล้วก็โกรธขึ้นมาในใจ โกรธในใจแล้วก็ยังไม่แล้ว
ต้องแสดงออก ทางกาย ทางวาจา กระทบกระทั่งผู้อื่นให้เดือดร้อนไป ตามๆกัน อันหมู่นี้ บุคคลไม่ค่อยจะสำนึกได้เลยว่าเป็น บาปอกุศล เหตุนั้น ถึงได้ยึดถือเอาไว้
ถ้าผู้ใดมานึกได้ รู้ได้ว่า ความวิตก อย่างนี้มันเป็นบาปอกุศล มันจะทำตนให้เป็นทุกข์เดือดร้อนต่อไป ระลึกได้อย่างนี้มันก็ยับยั้งใจได้ มันก็ไม่วิตกไป อย่างงี้แหละ
เพราะฉะนั้นคำว่า ความรู้นี่นะ มันจึงเป็นสิ่งสำคัญ ทุกคนต้องศึกษา ต้องให้รู้ ต้องให้เข้าใจ ลักษณะแห่งความดีและความชั่วต่างๆหมู่นี้ ถ้าไม่ศึกษาพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน มันก็ไม่รู้ นะ เป็นอย่างงั้น..
บางส่วนจากพระธรรมเทศนา หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ - อุบายบังคับจิต 30 มิ.ย. 32
https://youtu.be/AZib5fi71-A?t=6m10s (6:10 - 8:42)
7.3.18
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment