มีอารมณ์ 2 รู้ เฉย รู้กับเฉย อุเบกขา เอกัคคตารมณ์

..ถ้าลงถึงฐานใหญ่แล้วจิตไม่สั่งงาน จิตวางจากขันธ์ 5 แม้บางทีเรา มันจะลง มันจะสงบ เรานั่งไม่ทันนะ พอนั่งปั๊บกลัวมันจะล้ม จิตไม่สั่งงานแล้ว จิตจะวางออกจากธาตุจากขันธ์ ระยะที่เราเดินจงกลมอยู่ นั่งลงพอลงถึงแล้ว ขายังเหยียดอยู่ คุไม่ทัน มันก็นั่งอยู่ท่านั้นแหละ

ออกจากสมาธิ ก็ไปเห็นเราเหยียดขาอยู่เหมือนเดิม นั่นน่ะ มันไม่สั่งงานนะ มันวางจากขันธ์ 5 มันจาคะขันธ์ 5 เจโตวิมุตติ นะ เมื่อออกจากสมาธิไป เราก็เอา อารมณ์นี้แหละ ที่เราเห็นอยู่ในสมาธิ

จิตจะว่างสว่างไสวผ่องใสเป็นธรรมชาติ ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนอยู่ในนี่ มีอารมณ์ 2 รู้ เฉย รู้กับเฉย อุเบกขา เอกัคคตารมณ์ เราเห็นในสมาธิ ออกจากสมาธิเราก็ เอาสิ่งที่เราเห็นนี่แหละ นี่แหละเรียกว่า ยถาภูตญาณทัสสนะ รู้เห็นตามความเป็นจริง

เมื่อจิตสงบแล้ว ร่างกายก็ไม่มี ลมหายใจก็ไม่มี รูปนามขันธ์5ไม่มี ตัวตนสัตว์บุคคลไม่มี มีแต่เอโก ธัมโม รูปก็เป็นธรรมชาติ นามก็เป็นธรรมชาติ ราบเหมือนหน้ากลองชัย เป็นอันเดียวกันหมดในโลกเนี้ย 

เป็นธรรมชาติเหมือนกันหมด ต้นไม้ภูเขาเลากาสัตว์สาวาสิ่งไม่มี ตัวตนสัตว์บุคคลที่เรา หลงว่ามันมีอยู่นั้น ก็ไม่มี นี่แหละ ยถาภูตญาณทัสสนะ รู้เห็นตามความเป็นจริง

เมื่อออกจากสมาธิ จิตก็หลุดพ้น ปัญญาวิมุตติหลุดพ้นจากขันธ์ 5 เมื่อตาเห็นรูปเราก็ไม่ยินดีไม่ยินร้าย เพราะไม่มีคนเห็น ธรรมชาติอิงอาศัยกันเกิด เห็นก็สักแต่ว่าเห็นเท่านั้น ทีนี้

ได้ยินก็สักแต่ว่าได้ยิน ทราบก็สักแต่ว่าทราบ รู้สักแต่ว่ารู้ จิตของเราจะแน่วแน่ดิ่ง เป็นกลางอยู่อย่างงั้น ไม่ยินดียินร้าย เรียกว่ามัชฌิมะ มัชฌิมาปฏิปทา ข้อปฏิบัติให้ถึงความเป็นกลาง

เราก็ดับขันธ์ 5 ได้ รู้ว่าขันธ์ 5 มันทำงาน ธาตุขันธ์อิงอาศัยกันเกิด รูปกับนามอิงอาศัยกันเกิด เมื่อออกมาแล้ว ก็อยู่ในอารมณ์ อุเบกขา เอกัคคตารมณ์ได้

จิตก็ว่างสว่างไสว เหตุเพียงเท่านี้แหละคือพระนิพพาน ถ้ามันไม่เห็นอยู่ ออกมาก็ต้องมาถอดขันธ์ 5 ดูอีกตรงไหนล่ะเค้าว่าเป็นคน กายหรือเป็นคน..

พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ ณ บ้านจันทร์ส่องธรรม เชียงใหม่ วิถีแห่งภาวนา๑๕ เช้า ๑๔ พ.ย. ๕๘

https://youtu.be/Tp4rJSkQxKs?t=40m44s
(40:44 - 44:23)