หลวงตาศิริ เมตตา เทศน์อธิบายเกี่ยวกับ โอวาทปาติโมกข์ “หัวใจพระพุทธศาสนา”
..จิตผู้ใดก็ตาม เมื่อบำเพ็ญภาวนาลงไปแล้ว มันจะลงไปถึงธรรมชาติ อันนี้คือกัน คือรู้ๆๆ เฉย ธรรมชาติว่างสว่างไสว ท่านเรียกว่าจิตผ่องแผ้วแจ่มใส พระพุทธองค์อุบัติขึ้นมา ก็มาสอน
สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง เว้นจากการทำบาปทั้งปวง กุสสะลัสสูปะสัมปะทา สร้างกุศลให้ถึงพร้อม คือ ทาน ศีล ภาวนา นั่นน่ะ กุศล เข้าใจมั้ย สะจิตตะปะริโยทะปันนัง ทำจิตให้ผ่องแผ้วแจ่มใส
ทำยังงัย จะผ่องแผ้วแจ่มใส เข้าสมาธิ ก็เห็นชั่วคราว ผ่องแผ้วแจ่มใสขึ้นมา เป็นธรรมชาติอยู่ จิตของใครก็ตาม เมื่อมาลงถึงอันนี้ก็ได้ เห็นธรรมชาติ เอโก ธัมโม เป็นธรรมชาติหนึ่งเดียวอยู่
คืออารมณ์พระนิพพาน ธรรมชาติ ธรรมธาตุตัวนี้ เข้าใจมั้นล่ะทีนี้ จิตผ่องแผ้วแจ่มใส เอตัง พุทธานะ สาสะนัง นี่แหละคือคำสอนของพระพุทธเจ้า ทั้งหลายทั้งปวง ก็สอนลงมาให้จิต เป็นธรรมชาติ ผ่องใส่ สว่างไสว เป็นธรรมชาติอยู่
ออกมาจากสมาธิก็ มาอยู่ในอารมณ์นี้ ผ่องใสสว่างไสวอยู่ คืออารมณ์ไหน ไหลมาทางตา สติปัญญาก็รู้เท่าว่า ไม่มีตัวตนสัตว์บุคคล เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จิตไม่รับอารมณ์ ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย คืออุเบกขา จิตก็ผ่องใสอยู่คือเก่า เข้าใจมั้ยล่ะทีหนิ
ใครทำก็ได้หมดล่ะ พระเถร เณรชี อุบาสก อุบาสิกา ลงไปถึงตรงนี้ก็เห็นพระนิพพานด้วยกันหมด..
บางส่วนจาก ๐๗.บารมี (43:33 - 45:52)
พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดงผานิมิต
https://drive.google.com/drive/u/0/folders/0B6OG_Su4MwGZeVY2WW5yZ2NHYkU
8.8.16
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment