ขันธ์ 5 ก็สมมติเฉยๆ ขันธ์ 5 จริงๆไม่มีดอก เป็นสัญญาในอดีต คนในอดีต คนในโบราณ ตั้งสมมติ บัญญัติขึ้นมา ใช้ร่วมกัน ว่าก้อนอันนี้ให้เรียกว่าก้อนสกลกาย

..ขันธ์ 5 ก็สมมติเฉยๆ ขันธ์ 5 จริงๆไม่มีดอก เป็นสัญญาในอดีต คนในอดีต คนในโบราณ ตั้งสมมติ บัญญัติขึ้นมา ใช้ร่วมกัน ว่าก้อนอันนี้ให้เรียกว่าก้อนสกลกาย

 ก้อนอันนี้ก็เรียกว่ารูป 1 นาม 4 ก้อนอันนี้ก็เรียกว่าขันธ์ 5 ก้อนอันนี้จึงเรียกว่าสัตว์ เรียกว่าคน เรียกว่าตัว เรียกว่าตน เรียกว่าเราว่าเขา สมมติว่าสัตว์ สมมติ ไม่ใช่ของจริงนะ สมมติหนิ เป็นของตั้งขึ้นเฉยๆ

สมมติขึ้นเฉยๆ มาใช้ร่วมกันเฉยๆ ก็สมมติบัญญัติออกจากก้อนธาตุ ก้อนธรรม นี่ล่ะ นี่ล่ะก้อนธาตุ ธาตุ4 ดินน้ำลมไฟ อากาศ วิญญาณ ก้อนธาตุ ธาตุพวกนี้ก็เรียกว่าเป็นธรรมธาตุ เป็นธรรมดา ท่านเรียกว่าก้อนธรรม ก้อนธาตุ ก้อนธรรม ที่จริงในนี่

ค้นดูหมดแล้ว ไม่มีอะไร ไม่มีเจ้าของ ไม่มีสัตว์ไม่มีคน ไม่มีตัว ไม่มีตน ไม่มีเรา ไม่มีเขา อยู่ในนี่ เป็นก้อนอนัตตาธาตุ อนัตตาธรรม ก้อนธรรมชาติ ก้อนธรรมดา ไม่มีสัตว์บุคคลอยู่ในนี่

ถ้าพิจารณาเห็นอย่างงี้ ก็เริ่มจะเข้าใจ ในสมมติล่ะทีนี้ เค้าสมมติว่าสัตว์ เมื่อมันประชุมกันแล้วก็สมมติว่าสัตว์ สมมติว่าคน

คนอยู่ไหนล่ะ เอาถอดแยกธาตุออกมาดู ถ้าสงสัย คนนั่นน่ะ ธาตุ 4 ธาตุ 6 นั่นน่ะ ดินหรือเป็นคน น้ำหรือเป็นคน ลมหรือเป็นคน ไฟหรือเป็นคน อากาศหรือเป็นคน วิญญาณหรือเป็นคน ไม่มี เมื่อมันประชุมกัน มาปรุงแต่งกันขึ้น

เค้าก็ตั้งชื่อสมมติว่าคน ตรงไหนล่ะคน ต้องหาให้มันเห็น ถ้าดินเป็นคนน่ะ เวลาดินมันไฟไหม้ มันเสื่อมสลายลงไปมันก็ไปสู่ธาตุเดิม

ถ้าดินเป็นเรา เราทำไม ตายไป ไม่เอาดินไปด้วย ดินเป็นเราเป็นของของเราน่ะ ดินน้ำลมไฟพวกนี้มาปรุงแต่งกันขึ้น พระพุทธองค์จึงให้เห็น ให้พิจารณาให้รู้ให้เห็นตามความเป็นจริง..

สังขารธรรม  (20:48 - 23:27)
พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดงผานิมิต
https://youtu.be/G_R2-oL-bXo?t=20m48s