..เทียบง่ายๆให้ฟังอีกอย่าง ก็เหมือนกับน้ำ นั่นน่ะ ตัวฐีติจิต น้ำมันจะนิ่งอยู่ ไม่มีลมพัด ไม่มีอะไร นิ่งอยู่ไม่มีคลื่นไม่มีอะไร นะ เวลาเต่า เวลาปลา หรือสัตว์อยู่ในน้ำ มันหายใจ มันโผล่หัวขึ้นมา น้ำก็กระเพื่อม ปลาตัวน้อยก็กระเพื่อมน้อย ปลาตัวใหญ่ก็กระเพื่อมแรง
อารมณ์เล็กๆน้อยๆ ก็กระเพื่อมค่อยๆ อารมณ์ใหญ่ๆก็กระเพื่อมแรง หรือเหมือนกับเราโยนก้อนหิน ก้อนดิน หรือโยนไม้ ลงไปในน้ำนั่นน่ะ น้ำคือใจของเรา อารมณ์ก็คือค้อน หรือสิ่งที่เราโยนลงไป ไปกระทบน้ำ น้ำก็กระเพื่อม ออกรับอารมณ์ น้ำก็กระเพื่อมออกรับแรง แรงของค้อนนั่นน่ะ ถ้าค้อนเล็กๆน้อยๆ ไม้เล็กๆน้อยๆ โยนลงไปมันก็ไม่แรง ถ้าเอาไม้ใหญ่ๆโยนลงไป มันก็แรง กระเพื่อมแรง
หมดแรงกระเพื่อม แล้วก็หยุด อันแรงกระเพื่อม เรียกว่าน้ำ มันทำงาน น้ำมันกระเพื่อม ใจของเราก็เหมือนกัน กระเพื่อมออกรับอารมณ์ อย่างงี้ นี่ ที่มันออกรับอารมณ์ท่านเรียก จิต จิตมันนึกคิดปรุงแต่ง จิตมันทำงาน เรียกว่างานของจิต
อยู่เฉยๆเราไม่เห็นจิตนะ มันจะเป็นธรรมชาติว่าง แล้วก็รู้อยู่เฉยๆ ตั้งตรง พอมีอารมณ์เข้าไปกระทบ มันจะเกิด จิตมันจะเกิดขึ้น ทำงานขึ้น ท่านจึงเรียกว่าเห็นจิตในจิต อันนี้จิตทำงาน เราท่านทั้งหลายก็ไปถือเอา งานของจิตนี่ล่ะ ว่าเป็นจิต มันจึงวุ่นวายอยู่เดี๋ยวนี้
เลยเกิดความโลภ ความโกรธขึ้นมา อารมณ์ดี ก็เกิดราคานุสัย ยินดีพอใจ เรียกว่ากำหนัดยินดีพอใจ ก็เรียกว่าราคานุสัยตามนอน เข้าไปนอนเนื่องฝังอยู่ในจิต กิเลสอันละเอียด เรียกว่าราคานุสัย ถ้ายินร้ายไม่พอใจก็เรียกปฏิฆานุสัย คือทุกขเวทนาเกิดนั่นน่ะ ปฏิฆานุสัยก็ตามนอน ไปตามนอน นอนอยู่ในจิตสันดานของเรา
ความโลภความโกรธไปนอนอยู่ในนั้น วางบ่ได้มาแบกเอาความโลภความโกรธ แบกเอาของบ่มีตัวบ่มีตน..
บางส่วนจาก กายนอก กายใน (21:42 - 25:31)
พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดงผานิมิต
https://www.youtube.com/watch?v=NnHqHJlm5bs
18.6.16
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment