สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน)
.."ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จแล้วด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจร้ายแล้ว จะพูดหรือจะทำ ทุกข์ย่อมติดตามผู้นั้นไปเพราะเหตุนั้น เหมือนอย่างล้อไปตามรอยเท้าโคที่ลากเกวียนไปฉะนั้น”
นี้เป็นคำแปลพระพุทธภาษิตในพระธรรมบทคาถาต้น กับอีกบทหนึ่งในลำดับต่อไปว่า
“ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จแล้ว ด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจผ่องใสแล้ว จะพูดหรือทำ สุขย่อมติดตามผู้นั้นไปเพราะเหตุนั้น เหมือนอย่างเงาไม่ละตัวฉะนั้น”
บุคคลผู้มีใจร้าย คือ บุคคลผู้มากด้วยกิเลส
บุคคลผู้มีใจผ่องใส คือ บุคคลผู้ไกลกิเลสหรือมีกิเลสเบาบาง
พระพุทธภาษิตข้างต้นมีความหมายง่ายๆ ว่า บุคคล ผู้มากด้วย กิเลส คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง จะคิดจะพูดจะทำอะไรย่อมเป็นเหตุให้ตนเองเป็นทุกข์
ส่วนบุคคลผู้ไกลกิเลสหรือมีกิเลสบางเบา คือ ไม่มีความโลภ ความโกรธ ความหลง หรือมีเพียงเบาบาง จะคิดจะพูดจะทำอะไร ย่อมเป็นเหตุให้ตนเองเป็นสุข..
จิตที่ฝึกแล้วนำสุขมาให้
พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=52850
11.8.18
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment