ได้กรรมฐาน 5 นี่แล้ว ให้เอาไปสำเนียกค้นคิด พิจารณาดู ซอมเบิ่ง โยนิโสมนสิการ โดยแยบคาย นี่แยกกายเจ้าของมาเบิ่ง ผมหนิ สมมติเอาผมหนิ มาดู ผมมันเกิดมาจากไส ต้องถามเจ้าของอย่างนี้ ผมได้มาจากไหน คิดๆไปด้วย ได้มาจากไหน ผมหนิหือ หงอกๆดำๆอยู่หนิ ได้มาจากไหน หือ ได้มาจากไหน

หลวงตาศิริ อินฺทสิริ ..บางทีเราได้ยินได้ฟังแล้ว ไม่เอาไปทำดู ก็ไม่เห็นนะ ไม่รู้ไม่เห็นนะ ต้องไปทำ ท่านเรียกว่าไปสำเหนียก ได้กรรมฐาน 5 นี่แล้ว ให้เอาไปสำเนียกค้นคิด พิจารณาดู ซอมเบิ่ง โยนิโสมนสิการ โดยแยบคาย นี่แยกกายเจ้าของมาเบิ่ง ผมหนิ สมมติเอาผมหนิ มาดู

ผมมันเกิดมาจากไส ต้องถามเจ้าของอย่างนี้ ผมได้มาจากไหน คิดๆไปด้วย ได้มาจากไหน ผมหนิหือ หงอกๆดำๆอยู่หนิ ได้มาจากไหน หือ ได้มาจากไหน

ได้มาจากธรรมชาติคือดินน้ำลมไฟมาประชุมกันใช่มั้ย เลยมาเกิดอยู่ศีรษะ เขาเรียกว่าผม..

..ถ้าไม่มีดิน ผมจะมีไหม ไม่มีธาตุดิน ถ้าไม่มีธาตุน้ำ ผมจะมีขึ้นได้ไหม ไม่มีความร้อน ความอบอุ่น ลมไฟ ผมจะเกิดได้ไหม ไม่ได้ นี่ล่ะ เรียกว่าผมมันก็เกิดจากธาตุ 4 นี่เอง ธาตุ 4 ก็คือธรรมชาติ..

..ดินมีเจ้าของไหม ไม่มี ดินก็เป็นธรรมชาติ เป็นธาตุอันหนึ่ง น้ำเป็นธรรมชาติอันหนึ่ง ลมไฟเป็นธรรมชาติ เมื่อมาก่อตัว มีเจ้าของมั้ย

ธรรมะ คือของกลางนะ จำไว้ให้ดีนะ ธรรมะเป็นของกลาง แต่ก่อนหลวงตาไปอ่านเห็น ของกลางอย่างได๋ เพิ่นเขียนไว้ธรรมะคือของกลางว่างั้น มันสิเป็นของกลางอย่างได๋ คิดไม่ออก

เดี๋ยวนี้คิดออกแล้ว คือมันเป็นอนัตตา เข้าใจมั้ย ไม่มีเจ้าของ มารวมกัน ที่นี้ เมื่อมารวมกันเค้าก็มาตั้งสมมติขึ้นนี่แหละ ว่าคน ว่าเรา ว่าเขา ก็เลยมาถือตามโลกเขาสมมติ ตามเขาสมมติขึ้นมาใช้ ก็ว่ามีเรามีเขาจริงๆ มี ต้องมีโดยสมมติ..

บางส่วนจาก พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ
งานทำบุญอายุวัฒนมงคล ๗๒ ปี หลวงตาศิริ อินฺทสิริ ๑๒ พ.ค. ๕๙
https://youtu.be/LL8_ZRZ4UFA?t=1h58s
(1:00:58 - 1:02:12, 1:03:39 - 1:04:02, 1:07:30 - 1:08:35)