..เอาไปเอามา ลมหายใจเบาลง ก็เรียกว่ากายละหุ เอาไปเอามาลมหายใจระงับลง ก็เรียกว่ากายระงับ ดับลง หรือใครว่าพุทโธ พุทโธ พุทโธ พุทโธ ว่าอยู่งั้น คำบริกรรม คำว่าพุทโธ บริกรรมแปลว่าว่าซ้ำๆกัน ว่าพุทโธ พุทโธ น่ะ
ว่าไปว่ามาพุทโธ ก็จะเบาลงเบาลง จนหาย เราจะบริกรรมไม่ขึ้น ว่าพุทโธไม่ออกล่ะทีหนิ มันหายไปโดยปริยาย ก็เหลือตั้งแต่ตัวรู้ ว่าพุทโธหายนั่นน่ะ ความรู้อันนั้นจะเด่นขึ้น
ถ้าใครภาวนาเอาลมหายใจ ลมหายใจก็จะละเอียดลง ละเอียดลง เบาลงเบาลง เหมือนกันนะ เบาลงเบาลง เอาไปเอามาก็ ลมหายใจก็ระงับดับลง
ไม่ต้องกลัวเจ้าของตายดอก ตัวรู้มีอยู่ คนจะมา เวลามันจะระงับดับลง คนจะมากลัวเจ้าของตายนี่ละ โหยไผสิเลี้ยงลูกเลี้ยงหลานไห่ ไผสิเบิ่งเฒ่านั่น พะนะ คึดนำผัวคึดนำลูก ผู้ชายก็คึดนำเมีย หาลมหายใจคืนมาอีก หายใจ ดึงลมหายใจคืนมา
ลมหายใจก็หยาบ กายหยาบจิตก็หยาบด้วย กายละเอียด จิตก็ละเอียดด้วย มันก็ค่อยละเอียดลง ละเอียดลง เบาลง จนตัวลมหายใจระงับดับลง นั่นล่ะ เหลือแต่ความรู้ๆ เด่นขึ้น รู้เฉย รู้เฉย อยู่..
บางส่วนจาก ที่พึ่งอันประเสริฐ (3:05 - 5:06)
พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดงผานิมิต
https://www.youtube.com/watch?v=aNTUu3NU1YE
1.7.16
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment