หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ..ถึงแม้ว่าผู้บังคับบัญชาจะลำเอียง ลำเอียงนั้นก็เข้าใจว่า เป็นกรรมของผู้นั้นเอง ดลบันดาลให้ผู้บังคับบัญชาไม่ชอบใจ กับผู้นั้น เพราะว่ากรรมของตัวเองน่ะ มันไปบันดาล ต้องนึกอย่างนั้น
เมื่อนึกถึงกรรมของตัวเองแล้วอย่างนี้ มันก็ไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่นล่ะบัดนี้ ไม่ไปโทษผู้อื่น ก็ก้มหน้าใช้กรรมไป//
..ฉะนั้นการทำความดีบางอย่าง มันบางทีมันอาจมีความชั่วสะกัดไว้ ตนอาจได้ทำความชั่วอย่างใดมาแต่ก่อน นู้น กรรมชั่วนั่นแหละมาตัดรอน เรื่อยไป ตนจะทำดีมากมายอย่างไร มันก็ก้าวหน้าไปไม่ได้
หนิบุคคลผู้ที่ไม่เชื่อกรรมไม่เชื่อผลของกรรม แล้วมันก็อย่างว่า ก็ดิ้นไปแล้วบัดนี้นะ เสียใจ ไปโทษผู้บังคับบัญชานู้น ว่าผู้บังคับบัญชาลำเอียง
ตนทำดีแทบตาย ไม่มีใครเหลียวแลเลย อย่างนี้ มันไม่ถูกต้อง คนเรามันต้อง เชื่อกรรมเชื่อผลของกรรม ถ้าตนทำดีในปัจุบันนี้ เต็มที่แล้ว ยังไม่มีใครยกย่องสรรเสริญ ก็แสดงว่ามันมีกรรมชั่วที่ตัวทำมาแต่ก่อนนั้น มาสะกัดกั้นไว้ มันจึงเป็นอย่างนั้น
หนิถ้าผู้ใดนึกถึงกรรมในอดีตที่ตนทำมา ได้อย่างนี้แล้ว ก็ไม่ต้องไปยกโทษใครแหละไม่ต้องไปโทษใคร ถึงแม้ว่าผู้บังคับบัญชาจะลำเอียง ลำเอียงนั้นก็เข้าใจว่า เป็นกรรมของผู้นั้นเอง ดลบันดาลให้ผู้บังคับบัญชาไม่ชอบใจ กับผู้นั้น
เพราะว่ากรรมของตัวเองน่ะ มันไปบันดาล ต้องนึกอย่างนั้น เมื่อนึกถึงกรรมของตัวเองแล้วอย่างนี้ มันก็ไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่นล่ะบัดนี้
ไม่ไปโทษผู้อื่น ก็ก้มหน้าใช้กรรมไป เมื่อกรรมอันนั้นมันหมดอายุลงเมื่อใด ผู้นั้นทำความดีไม่ท้อไม่ถอย มันก็ค่อยเจริญขึ้นโดยลำดับไป อย่างนี้..
บางส่วนจากพระธรรมเทศนา หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ - อริยสัจ4 ธรรมทำให้ใกล้พระนิพพาน
https://youtu.be/5eMGXVw2cWc?t=15m33s
(15:33 - 17:30)
19.1.18
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment