สำหรับมรรคทั้ง 3 เนี่ย โสดา สกิทา อนาคา นี่ คฤหัสถ์นั่น มีสิทธิ์บรรลุได้เป็นจำนวนมากทีเดียว ในตำราท่านกล่าวไว้ว่า โสดาบันนี่แหละ สำหรับผู้ครองเรือนแล้ว ครั้งพุทธกาลน่ะ บรรลุกันมากมายทีเดียว ก็เพราะท่านมองเห็นอัตภาพร่างกายไม่ใช่ตัวตนอย่างว่านี่แหละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง แล้วเหตุนั้นจึงได้ละความถือตัวถือตนลงไป เมื่อละความถือตัวถือตนออกไปแล้ว จิตใจนี้มันก็เบา มันก็ไม่หนักไม่หน่วง แม้ร่างกายนี้มันจะวิบัติแปรปรวนไปยังงัย จิตนี้ก็ไม่เป็นทุกข์เดือดร้อน แม้ใครจะด่าว่าเสียดสีอะไรมันก็ไม่โกรธ

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ..เมื่อเราพิจารณาอย่างนี้บ๊อยบ่อย มันจะกำจัดความหลง ความสำคัญว่ามีเขามีเรามีตัวมีตนออกไป เป็นคุณธรรมของพระโสดาบัน อันพระโสดาบันนี่ คฤหัสถ์ครองเรือนก็บรรลุได้

เห็นแจ้งได้ บรรลุได้ยากมีแต่อรหัตตผลเท่านั้นแหละ อรหัตตผลนั้น เป็นคฤหัสถ์นี่ มีจำนวนน้อย ที่บรรลุนั่นน่ะ พอบรรลุแล้วก็นิพพานไปเลย อยู่ไปไม่ได้ ถ้าจะอยู่ต่อไปก็บวช

แต่สำหรับมรรคทั้ง 3 เนี่ย โสดา สกิทา อนาคา นี่ คฤหัสถ์นั่น มีสิทธิ์บรรลุได้เป็นจำนวนมากทีเดียว ในตำราท่านกล่าวไว้ว่า โสดาบันนี่แหละ สำหรับผู้ครองเรือนแล้ว ครั้งพุทธกาลน่ะ บรรลุกันมากมายทีเดียว

ก็เพราะท่านมองเห็นอัตภาพร่างกายไม่ใช่ตัวตนอย่างว่านี่แหละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง แล้วเหตุนั้นจึงได้ละความถือตัวถือตนลงไป เมื่อละความถือตัวถือตนออกไปแล้ว จิตใจนี้มันก็เบา

มันก็ไม่หนักไม่หน่วง แม้ร่างกายนี้มันจะวิบัติแปรปรวนไปยังงัย จิตนี้ก็ไม่เป็นทุกข์เดือดร้อน แม้ใครจะด่าว่าเสียดสีอะไรมันก็ไม่โกรธ

เพราะมันเห็นแจ้งอยู่นี้ เขาไม่ได้ด่าเรา เขาด่าก้อนดินน้ำไฟลมต่างหาก เหตุนั้นพระโสดาบันท่านจึงไม่โกรธนั่นแหละ..

บางส่วนจากพระธรรมเทศนา หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ - คณะธรรมทานทัวร์ 15 ก.ค. 32
https://youtu.be/jE5Tlp07aVI?t=31m3s (31:03 - 32:44)