ฆราวาส : เค้าฉลาดแกมโกงครับ เค้าบอกไม่มีในกุศลกรรมบท 10 ถ้าอย่างนั้น พระโสดาบันนี่จิบเหล้าได้อยู่, หลวงตาศิริ : ..ถ้าจะเป็นอริยบุคคล เราเป็นฆราวาสญาติโยมก็ ต้องเอากุศลกรรมบท 10 มาบวกใส่ ทีหลัง แต่ต้องเอา 5 เป็นหลักก่อน ทางนี้ แล้วก็บวก กุศลกรรมบท 10 จึงเรียกว่าพระโสดาบันได้

ฆราวาส : เค้าเลยพูดต่อว่า พระโสดาบันนี่กินเหล้าได้ เค้าว่าอย่างงั้น จิบเหล้าได้อยู่

หลวงตาศิริ : อันนั้น มันเรื่องของเขาดอก เรื่องของเขา อิเหนาอย่าเป็นเองก็แล้วกัน ช่างแต่เขา เข้าใจมั้ย ช่างแต่เขา อิเหนาอย่าเป็นเอง

ฆราวาส : เค้าฉลาดแกมโกงครับ เค้าบอกไม่มีในกุศลกรรมบท 10 ถ้าอย่างนั้น พระโสดาบันนี่จิบเหล้าได้อยู่

หลวงตาศิริ : พระโสดาบัน มันต้องมา ต้องเอาศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 เป็นหลักนะ แล้วจึงเอากุศลกรรมบท 10 มาบวกใส่ เอาหลัก เอาศีลเป็นหลักก่อน ที่เค้าว่าอย่างงั้นก็คงไม่ถูก หลวงตาก็เคยเทศน์แสดงอยู่ ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 หนิ เป็นศีลหลัก ศีล 5 เป็นหลักเลย รากเหง้าของศีล เป็นหลักของศีล

ถ้าจะเป็นอริยบุคคล เราเป็นฆราวาสญาติโยมก็ ต้องเอากุศลกรรมบท 10 มาบวกใส่ ทีหลัง แต่ต้องเอา 5 เป็นหลักก่อน ทางนี้ แล้วก็บวก กุศลกรรมบท 10 จึงเรียกว่าพระโสดาบันได้

ฆราวาส : มีอีกเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับศีลนี่ มีคนบอกว่า ผมก็ยังไม่เข้าใจดี เค้าบอกว่า ศีลทั้ง 227 ข้อ มันงอกเงยมาจากศีล 5

หลวงตาศิริ : ใช่ๆๆ ขยายออกจากนี่ล่ะ  เป็นรากเหง้าของศีล ต้นของศีล ต้นของศีล เหมือนกับต้นไม้นี่ล่ะ กิ่งก้านสาขาของเขาก็หลาย แยกออกไป เราอย่าเหยียบต้นมันก็แล้วกันนะ เหยียบต้น กินผล เหยียบต้นมัน คนนั้นเค้าเหยียบต้นมันแล้ว เข้าใจมั้ยล่ะ เหยียบต้นมันแล้ว

บางส่วนจาก 01.หลวงตาศิริ อินฺทสิริ พระธรรมเทศนาช่วงเย็น 12 พฤศจิกายน 2558
https://youtu.be/reAVhjqhagM?t=9m42s
(9:42 - 12:30)