4.9.17

เมื่อเราปฏิบัติไปปฏิบัติมา ศีลสมาธิปัญญา มารวมกันเข้า เหมือนเชือก3แกลว เชือก3หุนติ เอ้อ มาปั้นเป็นอันเดียวกัน เป็นเชือกเส้นใหญ่ล่ะทีนี้ ท่านเรียกว่ามรรคสมังคี 3หุน หมุนใส่กันเป็นเส้นใหญ่ๆ มันจึงจะปราบกิเลสอย่างหยาบ อย่างกลาง อย่างละเอียดลงได้ จึงจะรู้เท่าเอาทันกิเลสดับกิเลสลงได้

BY Somchatchai IN No comments

มรรคสมังคี // หลวงตา : ..เมื่อเราปฏิบัติไปปฏิบัติมา ศีลสมาธิปัญญา มารวมกันเข้า เหมือนเชือก3แกลว เชือก3หุนติ เอ้อ มาปั้นเป็นอันเดียวกัน เป็นเชือกเส้นใหญ่ล่ะทีนี้ ท่านเรียกว่ามรรคสมังคี 3หุน หมุนใส่กันเป็นเส้นใหญ่ๆ มันจึงจะปราบกิเลสอย่างหยาบ อย่างกลาง อย่างละเอียดลงได้ จึงจะรู้เท่าเอาทันกิเลสดับกิเลสลงได้

เมื่อกิเลสไม่เกิดอยู่ที่จิตที่ใจได้ สติปัญญาตัดออกหมด ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส เรียกว่าอายตนะคือที่ต่อบ่อเกิดกิเลส ถ้ามันต่อกันกระทบกับรูปภายนอกคือ รูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ รูปภายนอกมากระทบกับรูปภายใน ต่อกันเข้าไปถึงใจ ท่านเรียกว่าสฬายตนะ หรืออายตนะ แปลว่าที่ต่อบ่อเกิดของกิเลส กิเลสก็เกิดขึ้น

เมื่อผัสสะเกิด วิญญาณรู้ขึ้นก็เกิดผัสสะ มันก็ต่อเข้าไปถึงใจ เมื่อเรารู้ว่าเมื่อผัสสะเกิด เราก็ดับที่ผัสสะนี่ล่ะ ดับขันธ์5 ดับก็เห็นสักแต่ว่าเห็นเฉยๆ ด้วยสติปัญญา ขันธ์5มันเกิดดับ ปัญญาคือความรู้ ท่านเรียกว่าสภาวะธรรม สภาพธรรม สภาวะธรรม ธรรมทั้งหลายคือกายกับใจ กายกับใจอิงอาศัยกันเกิด

มันเกิดได้ยังงัย ตาหูจมูกลิ้นกาย สงเคราะห์เรียกว่ารูปหนิเรียกว่ากาย นามก็สงเคราะห์เค้าเรียกว่าใจ นาม4หนิ รูปกับนามอิงอาศัยกันเกิด เกิดขึ้นแล้วก็ดับ ท่านให้รู้ว่านี่แหละคือสภาวะธรรม เป็นเครื่องรู้ของจิตเป็นเครื่องระลึกของสติ เป็นเครื่องรู้ของปัญญา เป็นเครื่องระลึกของสติ เอาสติปัญญา เตสัง ตัดออก ตัดตัวอุปาทิ อุปาทาน ไม่ให้ไปยึดมั่นถือมั่น ไม่ให้อุปาทานเอา

สภาวะธรรม รูปกับนามมันเกิดเองดับเองของมันอยู่อย่างงั้น ไม่ใช่เราไม่ใช่เขา ไม่ใช่ สัตว์บุคคล เห็นจึงสักแต่ว่าเห็น ได้ยินจึงสักแต่ว่าได้ยิน ทราบทางลิ้นทางจมูกทางกาย ก็สักแต่ว่าทราบ รู้ว่าคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ด้วยใจ ก็สักแต่ว่ารู้เฉยๆ

สติปัญญานี่ล่ะ คือตัวกุศลา เนี่ย กุศลคือความฉลาด ได้แก่สติปัญญาหนิ อันเกิดจากมรรค8 เตสัง ตัดออก จิตของเรา อันนี้ก็ ตัวอุปาทานก็ดับลง ไม่มี ขันธ์5เกิดดับ ขันธ์5ไม่มีเจ้าของ ไม่มีสัตว์บุคคลอยู่ในนั้น ส่วนตัวจิตตัวใจของเราก็ ว่าง เป็นธรรมชาติอยู่

โลกไม่เข้าไปผสมธรรม อารมณ์ไม่เข้าไปผสมจิต จิตจึงว่างเป็นธรรมชาติสว่างไสวผ่องใส เอตัง พุทธานะ สาสะนัง นี่ล่ะคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย..

บางส่วนจาก มรรคสมังคี วิธีแห่งการดับภพ ดับชาติ พระธรรมเทศนาโดย หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดงผานิมิต
https://youtu.be/Aki2hxrubwE?t=31m28s
(31:28 - 35:48)

0 comments:

Post a Comment