ความสงบกับความเพลิดเพลินมันก็ตรงกันข้าม ผู้ใดชอบต่อความเพลิดเพลินคนนั้นเท่ากับว่า ชอบกับความทุกข์นั้นเองแหละ ก็ความเพลิดเพลินนั้นมันเป็นเหยื่อล่อ ให้ติดอยู่ในทุกข์ คือมันเป็นเหยื่อล่อให้ จิตดวงนี้นะติดข้องอยู่ในโลกอันนี้ เทียวเกิดเทียวตาย อยู่ในโลกนี้ไม่รู้จักจบจักสิ้น ก็เพราะความเพลิดเพลินนี่ล่ะเป็นมูลเหตุ

ความสงบกับความเพลิดเพลิน มันก็ตรงกันข้าม //

..ความสงบกับความเพลิดเพลินมันก็ตรงกันข้าม ผู้ใดชอบต่อความเพลิดเพลินคนนั้นเท่ากับว่า ชอบกับความทุกข์นั้นเองแหละ ก็ความเพลิดเพลินนั้นมันเป็นเหยื่อล่อ ให้ติดอยู่ในทุกข์ คือมันเป็นเหยื่อล่อให้ จิตดวงนี้นะติดข้องอยู่ในโลกอันนี้

เทียวเกิดเทียวตาย อยู่ในโลกนี้ไม่รู้จักจบจักสิ้น ก็เพราะความเพลิดเพลินนี่ล่ะเป็นมูลเหตุ สัตว์ทั้งหลายจะได้ข้องอยู่ในโลกนี้ ผู้ใดชอบความสงบ ประพฤติปฏิบัติไปเพื่อความสงบทางจิตใจ ผู้นั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติ ออกจากโลกนี้

มองเห็นโลกนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวายยุ่งเหยิง มีการอิจฉาพยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่รู้จักให้อภัยต่อกันและกัน เข้าทำนองว่าปลาใหญ่กินปลาเล็ก อันนี้มันมีอยู่ในโลกนี่ หาได้ถมไป

นักปราชญ์ผู้มีปัญญา ท่านพิจารณาเห็นอย่างนี้แล้ว ก็จึงได้เหนื่อยหน่าย ไม่ปรารถนาที่จะมาเกิดในโลกนี้อีก ก็จึงภาวนาเข้าไป ใช้ปัญญาสอนจิต ให้ปล่อยให้วาง ขันธ์ทั้ง 5 อันนี้ ไปเรื่อยๆ เมื่อใจปล่อยวางขันธ์ 5 นี้ได้ ก็เป็นอันว่าจบลงแหละไม่ต้องมาเกิด อาศัยขันธ์ 5 นี้อีกต่อไป..

บางส่วนจากพระธรรมเทศนา หลวงปู่เหรียญ - พิจารณาธรรมของจริง 9 ก.ย. 31
https://youtu.be/p08qpZDxZBw?t=3m11s
(3:11 - 5:24)