ไม่ได้ไปอยู่ที่ไหนดอก ธรรมจักร ธรรมะคือใจ ใจของเรานี่ล่ะ มันฟุ้งซ่าน มันหมุนเป็นมรรค นี่ล่ะมรรคไม่ได้ไปหาอยู่ที่อื่น หมุนเพื่อจะดับกิเลส เพื่อจะดับความหลง เพื่อจะดับอวิชชานี่ล่ะ ความรู้ไม่จริงนี่แหละ ไม่ได้ไปดับที่ไหน หมุนติ้วๆอยู่ตลอดวัน ตลอดคืนล่ะอันนี้

..ไม่ได้ไปอยู่ที่ไหนดอก ธรรมจักร ธรรมะคือใจ ใจของเรานี่ล่ะ มันฟุ้งซ่าน มันหมุนเป็นมรรค นี่ล่ะมรรคไม่ได้ไปหาอยู่ที่อื่น หมุนเพื่อจะดับกิเลส เพื่อจะดับความหลง เพื่อจะดับอวิชชานี่ล่ะ  ความรู้ไม่จริงนี่แหละ ไม่ได้ไปดับที่ไหน หมุนติ้วๆอยู่ตลอดวัน ตลอดคืนล่ะอันนี้.. หลวงตาศิริ//

..คิดฝ่ายธรรม คิดฝ่ายมรรค คิดจะฆ่ากิเลส คิดจะดับอวิชชา ดับตัวเรา ดับตัวมานะ ดับตัวกูลงหนิ ไม่ได้คิดไปเรื่องอื่น คิดจะดับขันธ์ 5 คิดจะออกหนีจากขันธ์ 5 คิดจะออกหนีจากทุกข์ ค้นหาทุกข์ คิดจะฆ่ากิเลส แต่อุทธัจจะกุกกุจจะในนิวรณ์ธรรม 5 มันเป็นคิดไปหากามคุณ 5 มันคนละเรื่องกันนะ อันนี้คิดจะดับกามคุณ 5

คิดจะดับรูปฌาน คิดจะดับอรูปฌาน คิดจะดับรูปราคะ คิดจะดับอรูปราคะ คิดจะดับขันธ์ 5 อย่างหยาบ อย่างกลาง อย่างละเอียด มันคนละเรื่องกัน อุทธัจจะกุกกุจจะ อันนี้มันฟุ้งซ่านเวลาไปเดินปัญญา เรียกว่าเทศน์ ขึ้นธรรมมาสน์ เทศน์อบรมเจ้าของอยู่อย่างงี้..

..แจกรูปนามขันธ์ 5 พระกรรมฐาน โยมกรรมฐาน แจกให้เจ้าของดู เจ้าของหลงอยู่ก็หลงกายหลงใจเจ้าของ หลงขันธ์ 5 ก็แจกอยู่งี้ เทศน์อยู่อย่างงี้อบรมเจ้าของอยู่อย่างงี้ ใจมันหลงก็เอาใจนี่ อธิบายให้ใจฟัง จิตหลงเอาจิตแก้ เทศน์อยู่อย่างงี้ อุทธัจจะกุกกุจจะ หนิ

แม้ถ้าเอายกเรื่องหัวข้อธรรม ข้อใดข้อหนึ่งขึ้นมา พิจารณา ถ้าไม่จบไม่ยอมนะ มันสว่างก็สว่างไปอันนี้ อยู่งั้นล่ะ นะ ครูบาอาจารย์ท่านทำสว่างๆได้ ก็เพราะว่าท่านเดินปัญญาบ้าง ถ้ามันเหนื่อยท่านก็พักจิต

อนุโลม ปฏิโลม แปลว่าพักจิต พอพักจิตจิตมีกำลังแล้วก็ อนุโลม พามันคิด นี่ล่ะ อนุโลม ปฏิโลม อยู่อย่างงี้ ตลอดวันตลอดคืน สว่างไปเฉยๆ ไม่เพลียไม่ง่วงไม่เหงานะ มีแต่ปีติ อิ่มเอิบขึ้น กระหยิ่มยิ้มย่อง เวลาหยุดแล้ว ไปบิณฑบาต แข็งแรงคือเก่า

ไม่ได้หลับไม่ได้นอน แปลกประหลาด อัศจรรย์อยู่อันนี้ คิดตลอดคืนก็ได้ คิดจะฆ่ากิเลสนี่แหละ มันไม่จบไม่ยอม มันไม่ยอมเอง เราจะพามันนอน ก็นอนไม่หลับนะ ดีไม่ดีเข้าห้องน้ำมันคุมคิดอยู่น่ะ อุทธัจจะกุกกุจจะ หมุนอยู่งี้ล่ะ นี่ล่ะธรรมจักร มันหมุนเหมือนกงจักรเลยธรรมหนิ

มันจะฆ่ากิเลส หมุน เพื่อฆ่ากิเลส ไม่ใช่วัฏจักร วัฏจักรหมุนเพื่อจะสร้างกิเลส หมุนคนละเรื่องกันนะ อันนี้หมุนเพื่อจะดับกิเลส เพื่อจะฆ่ากิเลส ใจมันหมุนนั่น ธรรมะคือใจ มันฟุ้งซ่านมันหมุนอยู่อย่างงี้ เรียกว่า ธรรม หมุนเป็นกงจักร ก็เรียกว่าธรรมจักร

ไม่ได้ไปอยู่ที่ไหนดอก ธรรมจักร ธรรมะคือใจ ใจของเรานี่ล่ะ มันฟุ้งซ่าน มันหมุนเป็นมรรค นี่ล่ะมรรคไม่ได้ไปหาอยู่ที่อื่น หมุนเพื่อจะดับกิเลส เพื่อจะดับความหลง เพื่อจะดับอวิชชานี่ล่ะ ความรู้ไม่จริงนี่แหละ ไม่ได้ไปดับที่ไหน หมุนติ้วๆอยู่ตลอดวัน ตลอดคืนล่ะอันนี้

จนมันฆ่าได้ ค้นหา ขุดหา คุ้ยหา ซอกหา อะไรจะว่าอย่างไรล่ะหือ มันอยู่ยังงัย หาอยู่งั้ยแหละ ฆ่ากันไปเรื่อยๆ นี่ล่ะเรียกว่าธรรมจักร หมุนจะฆ่ากิเลส จนมันฆ่าได้มันถึงหยุด

กิเลสก็มีอย่างหยาบ อย่างกลาง อย่างละเอียด ก็ฆ่าไปทีละเล็กละน้อย จนไปถึงกิเลสอย่างละเอียด ตัวอวิชชานั่นน่ะ ดับไม่มีเหลือนั่นน่ะ ถอนรากถอนโคน รากเหง้าของมันก็คือความโง่ความหลง คืออวิชชานี่แหละ มันหลงอะไร เบื้องต้นก็หลงกายเจ้าของนี่แหละ เบื้องปลายก็หลงใจเจ้าของนี่แหละ..

บางส่วนจาก ๐๔.อย่ามัวเล่นกับของจริง พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ
https://youtu.be/WwUmECVjx9w?t=39m42s
(39:42 - 40:50, 41:20 - 44:54)