..คนบางคนไม่พิจารณา เรื่องบุญบาปนี้ให้แจ่มแจ้งแล้ว ถ้าเห็นคนอื่นมารังแกตน มาเบียดเบียนตน ก็ไปโทษคนนั้นแหละ ว่าคนนั้นล่ะไม่ดี มาเบียดเบียนเรา ให้เราเป็นทุกข์เดือดร้อน
หาได้มาคำนึงถึงตนไม่ว่า เพราะอะไรคนนั้นถึงได้มาเบียดเบียนตน บางทีตนก็ไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจในปัจจุบันนี้แหละ เขาก็ผูกใจเจ็บไว้ ได้โอกาสเขาก็เล่นงานตน ถ้าหากว่าตนไม่ได้ทำอะไรให้เขา เจ็บอกเจ็บใจในปัจจุบันนี้
ก็แสดงว่าตนได้ทำกรรมชั่วมาแต่ก่อน ได้เบียดเบียน บุคคลอื่นมาแต่ก่อน อย่างนี้ กรรมนั้นจึงได้ตามมาสนองเอา ทำให้คนรังเกียจเดียดฉันท์ หาทางอิจฉาเบียดเบียน ถ้าหากว่าผู้ใดมา ทวนกระแสจิตเข้ามาพิจารณาตัวเองเข้าไปได้อย่างนี้ มันก็จะไม่โกรธตอบคนนั้นเลย
ก็จะนึกในใจเลยล่ะว่า เราอโหสิกรรมให้นะเพื่อนนะ ตั้งแต่นี้ไปอย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย ขอให้ได้เป็นมิตรเป็นญาติกันไป ร่วมกันสร้างบุญบารมี เพื่อหาทางให้พ้นจากทุกข์ดีกว่าที่เราจะมาผูกเวรกัน
นี่ถ้าอธิษฐานในใจขึ้นไปอย่างนี้แล้ว กรรมเวรเหล่านั้นมันก็ต้องเบาบางลงแหละเพราะมันไม่มีการเพิ่มเติมเข้าไปอีก เมื่อมันให้ผลไปสุดเขตมันแล้วมันก็ระงับไป กรรมเวรเหล่านั้นน่ะ..
บางส่วนจาก คุณสมบัติของอุบาสก 5 ประการ - 13 ก.ย. 30
พระธรรมเทศนา หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
https://youtu.be/pynjb7yKxYM?t=9m5s
(9:05 - 10:54)
6.2.17
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment