บุพเพนิวาสานุสสติญาณ จุตูปปาตญาณ โลกียญาณ ญาณโลกีย์ บุคคลธรรมดาสามัญเค้าก็ทำได้ //
บุพเพนิวาสานุสสติญาณ ความรู้เป็นเหตุให้ระลึกถึงขันธ์ที่เกิดในอดีตได้ คือ การระลึกชาติของตนได้
จุตูปปาตญาณ ความรู้ในจุติและอุบัติของสัตว์โลกได้ เรียกว่า ทิพพจักขุญาณ หรือ ทิพยจักษุญาณ บ้าง
อาสวักขยญาณ ความรู้ในการกำจัดอาสวะให้สิ้นไป //
..ท่านไปได้ บุพเพนิวาสานุสสติญาณ ก็ได้ตัวนี้ล่ะ จิตออกจากอัปปนาใหม่ๆ จิตนุ่มนวลคู่ควรแก่การใช้งาน ท่านก็น้อมจิตไปดูจิตของเรา ตัวสูญญตาตัวความว่างนี่ล่ะ คือจิตแท้ใจเดิมของเรานี่ล่ะ มันจะสะสมอารมณ์ไว้ ล้านชาติแสนชาติตั้งแต่อดีต
ถ้าดูเป็นมันจะค่อย นี่ล่ะบุพเพนิวาสานุสสติญาณ ที่ท่านว่านั่นน่ะ บุพเพก็แปลว่าปางก่อน นิวาส ก็แปลว่าที่อยู่ ที่อยู่ตั้งแต่ปางเก่าปางก่อน ภพนั้นภพนี้ ไล่ไป ไล่ไป ไล่ไป ไล่ไป จบไม่เป็น ระลึกชาติหนหลังได้
ชาตินั้นไปเกิดเป็นอันนั้น ไปทำอย่างงั้นอย่างงี้ ก็เห็นหมด ได้แล้วอย่าไประลึกชาติตั๋ว(หลอก)เอาเงินเขาล่ะ ว่าเป็นเมียกูลูกกู ย้อง(ชม)เขาอยู่ฮั่น จั๊กแม้นบ่แม้นระลึกชาติ ได้ก็อยู่ในใจเรานี่ล่ะ ไม่ได้ก็อยู่นี่ ไม่ต้องไปหาแสดงออกมา เค้าไม่รู้ด้วยดอก
พูดออกมาว่าคนนั้นคนนี้เคยเป็นผัวเป็นเมียกัน ก็ว่าไปนะ ทำให้สับสนวุ่นวายเฉยๆดอก บุพเพนิวาสานุสสติญาณ
จุตูปปาตญาณ เห็นวิญญาณของสัตว์ไปเกิด ภพนั้นภพนี้ เนื่องจากผลของกรรม ที่ทำไว้แต่ชาติเก่าปางก่อน ทำกรรมทำบาปเอาไว้ใจขาดแล้วมันก็ไป กรรมอันไหนมาถึงก่อนขาดคาอารมณ์ไหนมันก็ไป
อ้าว พากันทำเอา อันหมู่นี่มันเป็นโลกียะ ญาณโลกียะ พระพุทธองค์ไม่สรรเสริญ ไม่ใช่บวชมาหา เหาะเหินเดินอากาศ มารู้วาระจิตของคน มารู้ระลึกชาติว่าคนนั้นเป็นผัวเป็นเมียกันดอก
นู้นท่าน โลกุตระ อาสาวักขยญาณ ญาณสิ้นไปแห่งอาสวะกิเลส อันนี้มันโลกียญาณ ญาณโลกีย์ บุคคลธรรมดาสามัญเค้าก็ทำได้
ส่วน โลกุตรญาณ อาสาวักขยญาณ ทำได้ตั้งแต่พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ เท่านั้นถึงจะทำได้..
บางส่วนจาก อารมณ์พระนิพพาน พระธรรมเทศนาหลวงตาศิริ อินฺทสิริ แสดงธรรมหลังทำวัตรเย็นวันที่ ๒๔ ม.ค. ๒๕๕๙
https://youtu.be/Ao_fKOGZaOM?t=29m41s
(29:41 - 32:30)
และ https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93
6.2.17
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment