5.1.17

ระวังนะ เวลาพระวัดใดวัดหนึ่ง ขัดผลประโยชน์กัน แตกสามัคคีกัน ทะเลาะเบาะแว้งกัน ญาติโยมอย่าไปสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เดี๋ยวจะกลายเป็น "อนันตริยกรรม" ไม่รู้ตัว

BY Somchatchai IN No comments

..ระวังนะ เวลาพระวัดใดวัดหนึ่ง ขัดผลประโยชน์กัน แตกสามัคคีกัน ทะเลาะเบาะแว้งกัน ญาติโยมอย่าไปสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เดี๋ยวจะกลายเป็น "อนันตริยกรรม" ไม่รู้ตัว

เช่นอย่าง หลวงพ่อวัดใต้ หลวงพ่อวัดเหนือ ต่างก็มีหน้าที่กันเยอะแยะ ขัดผลประโยชน์กันแล้วก็ไปทะเลาะถีบเถียงกัน

ต่างคนก็ต่างมีลูกศิษย์ ทั้งพระทั้งโยมแตกกันเป็นพรรคเป็นพวก ยกพวกขึ้นมารบกัน ถ้าพระสงฆ์แตกสามัคคีกันเป็นกลุ่มตั้งแต่ฝ่ายละ ๔ รูปขึ้นไป นั่นเป็น "สังฆเภท"

ในเมื่อ "สังฆเภท" แล้วก็เป็น "อนันตริยกรรม" ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน บาปนัก บาปหนา เพราะฉะนั้นการกระทำกรรม ให้ระวัง "อนันตริยกรรม" ให้มากๆ

และอีกอย่างหนึ่งถ้าท่านจะเป็นนักปฏิบัติอย่างแท้จริง ท่านอย่าไปถือพวก ถือพรรค ถือคณะ ว่าหมู่เขา หมู่เรา อาจารย์เขา อาจารย์เรา ขอให้ยึดถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะที่พึ่ง

ถือพระศาสดาคือพระพุทธเจ้าองค์เดียวเป็นครู พระสาวกที่เผยแผ่ศาสนาอยู่ในปัจจุบันนี้ ถอดแบบจากพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าทั้งนั้น

เพราะฉะนั้นการที่ถือพรรค ถือพวก ถือลัทธิแห่งการปฏิบัตินั้น ย่อมยังส่อแสดงว่าเป็นผู้ยังมีกิเลส ยังมีอุปาทานในการยึดมั่นถือมั่น ถ้าตราบใดที่เรายังยึดถือมั่นในพรรค ในพวก ในเรา ในเขา ของเรา ของเขาอยู่ เราก็ยังไม่หมดอุปาทาน

บางทีคณะนี้..โจมตีคณะโน้น คณะโน้น..โจมตีคณะนี้ ในทำนองนี้ ผู้ที่จะปฏิบัติธรรมเพื่อความพ้นทุกข์กันจริงๆ นั้น ขอได้โปรดทำจิตให้เป็นกลาง ให้ปล่อยวางลงไป ว่าผู้ประพฤติผิด เข้าใจผิด เป็นบุคคลผู้ที่น่าสงสาร ผู้ปฏิบัติถูก ทำถูกต้องและได้ผลดี เป็นบุคคลผู้ที่น่าอนุโมทนา

ผู้ที่ทำผิด ไม่ใช่ผู้ที่นักปฏิบัติธรรม จะต้องไปกล่าวจ้วงจาบด้วยคำพูดหยาบคาย แม้ว่าเขาจะทำผิด ก็เป็นเรื่องของเขา แต่เราไปกล่าวจ้วงจาบ ด้วยวาจาที่หยาบคาย เป็นการสร้างบาปกรรมขึ้นใส่ตัวเอง..

บางส่วนจาก นักปฏิบัติควรสังวร ระวัง อนันตริยกรรม !!!
เทศนาธรรมของหลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=4&t=49525

0 comments:

Post a Comment