กายของเรานี้แล ไม่อยู่ที่อื่นนะหนิ คำสอนของพระพุทธเจ้า เราดูแต่กายของคนอื่น ใช่มั้ยล่ะ กายเจ้าของไม่ได้ดู

..แต่ก่อนเราหลงว่ามีสัตว์มีคนอยู่ในนี่ พระพุทธองค์จึงให้ว่าทุกวัน เมื่อกี๊ก็พาว่า จำได้ไหมล่ะฮึ ให้ท่องทุกวัน กายของเรานี้แล ไม่อยู่ที่อื่นนะหนิ คำสอนของพระพุทธเจ้า เราดูแต่กายของคนอื่น ใช่มั้ยล่ะ กายเจ้าของไม่ได้ดู

นี่แหละคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ในนี้ แลเข้าไปดู เกศา คืออะไร เกศา ผม เราก็แลเข้าไปดูในผมนั้นล่ะ ผมก็เป็นอะไร อะไรผม ผมเป็นเราใช่ไหม ผมเป็นรูปใช่ไหม ผมเป็นอะไร เป็นธรรมชาติอันหนึ่ง เกิดอยู่บนหัว คนมาตั้งสมมติชื่อว่าผม

ใช่ไหม เขารู้จักเขาเป็นผมไหม เป็นเราไหมผมหนิ เป็นของเราไหม ไม่เป็นเหรอ ขนทีนี้ ไล่มาอยู่อย่างนี้แหละ ขนเป็นเราไหม เราเป็นขนมั้ย ขนมีอยู่ในเราไหม เรามีในขนมั้ย ไม่มี ไล่หาอยู่อย่างหนิ

ผม ขน เล็บ เอาเล็บ เล็บ 20 อันหนิ 20 อันหนิ เล็บเป็นคนไหม เอ๊าไม่เป็น ใช่บ๊อ จริงๆน่ะ แน่ใจ? แน่ใจว่าเล็บไม่เป็นคน ไม่เป็นเรา เราเป็นเล็บไหม

เราคือใคร เอ๊าถามย้อนกลับคืนมาอีก ยังงี้แหละการฝึกหัด เราคือใคร เรามีจริงไหม เราก็คือสมมตินั่นล่ะ สมมติมาเรียกจากก้อนสกลกาย ก้อนธาตุก้อนธรรมนี่ล่ะ มาสมมติเรียกว่าเรา มาเอาก้อนธาตุก้อนธรรมนี่ล่ะเป็นของของเราอยู่หนิ เรามีจริงไหม ของของเรา มีไหม เราก็ไม่มี ของของเราก็ไม่มี

นี่ล่ะให้มาเห็นตามความเป็นจริง ที่ท่านว่า ยถาภูตญาณทัสสนะ ยถาแปลว่าตาม ภูตะแปลว่าเป็น ญาณแปลว่ารู้ ทัศนะแปลว่าเห็น นี่ล่ะปฏิบัติถามอยู่อย่างนี้ วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า ต่อกันเนื่องๆจนเกิด ยถาภูตญาณทัสสนะ..


บางส่วนจาก พระธรรมเทศนาหลวงตาศิริ อินฺทสิริ แสดงธรรม ณ บ้านคุณพรทิพย์ ๒๔ พ.ค. ๕๙
https://youtu.be/JyyeOOk65VA?t=32m22s
(32:22 - 35:30)