..ทาน ศีล ภาวนา นี่แหละ คือ ทางดำเนินเดินออกจากทุกข์ เข้าสู่พระนิพพาน การให้ทาน เริ่มต้น เริ่มต้นจะดำเนิน ทางดำเนินเดินเข้าสู่พระนิพพาน มันทางยาวคราวไกล จำเป็นต้อง ทานหนิ เปรียบเสมือนเสบียง เสบียงอาหารนะ ถ้าเราจะเดินทาง ไม่มีเสบียงก็คงไปไม่ได้ ศีลคือตัวของเรา คือตัวของเรา คือร่างกายของเรา ภาวนาเปรียบเสมือนปัญญา หรือทาง ปัญญานะ
ถ้าจะมีทานอย่างเดียว ก็ไป ไม่ได้ ศีลไม่ดี ศีลหมายถึงตัวเรานะ ร่างกายของเราไม่บริบูรณ์ ย่อมเดินทางไม่ได้ แม้มีเสบียงอยู่ก็ตามนะ ศีลไม่บริบูรณ์ร่างกายไม่บริบูรณ์ ศีลยังขาดยังแหว่งอยู่ ก็ไปไม่ถึง ทีนี้มีทานมีศีลแล้ว ร่างกายบริบูรณ์ อาหารก็บริบูรณ์ ร่างกายบริบูรณ์แล้ว
แต่ไม่รู้จักทาง ไม่รู้จักทาง ก็ย่อมไปไม่ถึงพระนิพพาน ให้พากันเข้าใจอย่างนี้นะ ธรรม 3 อย่างนี้ เป็นปฏิสัมพันธ์ อาศัยซึ่งกันและกัน จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ถึงแม้ว่ามีปัญญาอยู่ ร่างกายไม่สมประกอบ ก็ไปไม่ได้ มีร่างกายสมประกอบ มีปัญญาอยู่ ไม่มีอาหาร เราก็ไปไม่ได้
ให้พากันเข้าใจอย่างนี้นะ ฉะนั้น เราท่านทั้งหลาย จึงให้พากัน ให้ทาน ทานนี่แหละเป็นบันไดก้าวแรก ของฆราวาสญาติโยมนะ ทาน ศีล ภาวนา ส่วนพระเถรเณรชี ก็ศีล สมาธิ ปัญญา หรือพูดย่อๆให้เข้าใจง่ายๆก็คือ มรรค มรรคมีองค์ 8 นั่นเอง นะ ส่วนฆราวาสญาติโยมมันจะไปพบกันอยู่ที่ ภาวนา..
บางส่วนจาก ๑๓.การบำเพ็ญบุญบารมี (01:12 - 04:02)
พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดงผานิมิต
https://drive.google.com/folderview?id=0B6OG_Su4MwGZeVY2WW5yZ2NHYkU&usp=sharing
2.6.16
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment