"ฝันเห็นอันนั้นอันนี้ ก็ดับ ไปแบกเอาความฝันอยู่หรือ คิดไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ เกิดแล้วก็ดับ ไปแบกเอาอยู่เหรอ"
"มันจะสังเกตออก เกิดดับมันไม่ใช่เราแล้ว เราคือผู้รู้ ผู้รู้มันไม่เกิดไม่ดับ"
..มันจะล็อคตัวอยู่ อุเบกขา ว่าง เป็นธรรมชาติอยู่คือเก่า อันเกิดอันดับ มันจะตัดออก มันว่าไม่เที่ยง มันว่าเป็นทุกข์ สิ่งใดเกิดสิ่งใดดับสิ่งนั้นต้องเป็นทุกข์ จะแบกเอาทุกข์อยู่เหรอ
ฝันเห็นอันนั้นอันนี้ ก็ดับ ไปแบกเอาความฝันอยู่หรือ คิดไปเรื่องนั้นเรื่องนี้ เกิดแล้วก็ดับ ไปแบกเอาอยู่เหรอ ตาไปเห็นรูปแล้วมันก็ดับ ความเกิดความดับ คือทุกข์ มันจะแบกเอาหรือ สติปัญญามันจะไล่ออกหมดนะ มันเกิดมันดับน่ะ มันทุกข์
มึงไม่รู้จักทุกข์ติ มึงจะไปแบกเอาทุกข์ติ มันก็ว่าเจ้าของ อารมณ์ไหนเกิดขึ้น.. มีแต่เกิดกับดับ อายตนะกระทบกันเกิดแล้วก็ดับ ขันธ์ 5 เกิดแล้วก็ดับ..
ถ้าฝึกได้แล้วย่อมนำความสุขมาให้ ไม่ได้แบกเอาไร เอาเกิดเอาดับ มันจะสังเกตออก เกิดดับมันไม่ใช่เราแล้ว เราคือผู้รู้ ผู้รู้มันไม่เกิดไม่ดับ
อย่าไปอยู่กับความเกิดความดับ ขันธ์ 5 มันทำงานเกิดดับอย่างนี้ ตาเห็นรูปเกิดดับ หูได้ยินเสียงเกิดดับ ถ้าสำคัญตนคือหลง ก็ไปแบกเอาทุกข์
ความเกิดความดับ เรียกว่าทุกข์ ทุกข์อริยสัจจริง มันเกิดมันดับเป็นสัจจะ คือความจริง..
บางส่วนจาก พระธรรมเทศนา สุญญตามหาปุริสา (๐๖.สุญญตามหาปุริสา.mp3 18:30 - 20:18)
หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดงผานิมิต อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
0 comments:
Post a Comment