..ให้มารู้อยู่ที่จิตเจ้าของ มารู้อยู่ที่ลมหายใจ เอาไปเอามา อภิสังขารมาร ความคิดนั่นน่ะ ฟุ้งซ่านเกิดขึ้น ฟุ้งซ่านรำคาญใจ นั่งอยู่ก็โกรธให้เจ้าของ.. ความคิดเปรียบเสมือนงูพิษ คือกิเลส คือมาร ต้องเข้าใจ อย่าเอาไปเสพ อย่าไปจับงู อสรพิษ
อภิสังขารมาร มันเลื้อยไป มันคิดไปเรื่องอะไรก็ชั่งหัวมัน อย่าไปเสพกับมัน อย่าไปจับมัน อย่าไปตะครุบมัน เดี๋ยวมันก็ฉกเราตายนั่นน่ะ เจ็บไข้ได้ป่วยน่ะ งูพิษน่ะ ความคิดก็เหมือนกันมาร
ไม่ต้องไปเสพ ไปรู้กับมัน ปล่อยทิ้งไปเลย หนีไปไกลๆ ร้อยลี้พันลี้ได้ยินมั้ยล่ะหือ มีแต่ผีบ้าน่ะแหละมาดูความคิด เค้าให้ดูลมหายใจ สวนทางกัน
ความคิดเกิดแล้วก็ดับ เท่านั่นล่ะ ใครเป็นคนคิด ไม่มีใครคิด อารมณ์เก่า ไหลออกจากจิตหนิ ที่จำได้หมายรู้เอาแต่อดีต พอจิตจะสงบ จิตจะว่าง
อารมณ์พวกนี้จะมา ไหลออกมาทันที เหมือนกับน้ำไหลออกจากบ่อ มันไหลมาจากไหนไม่รู้ล่ะ ก็น้ำอยู่ในดินนั่นล่ะ อารมณ์อยู่ในจิตเรานี่ล่ะ มันไหลออกมา
เค้าเรียกว่าขันธ์ 5 ทำงาน อารมณ์ก็คือรูปภายนอก จิตก็คือรูปภายใน ความคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ เกิดขึ้นก็คือมโนวิญญาณ เกิดขึ้น ก็ว่าเราคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้
ก็คือขันธ์ 5 ก็คือนาม รูปกับนาม เกิดแล้วก็ดับ เราเลยไม่เห็นเกิดเห็นดับ มีแต่คิดไปตะพึดตะพือแล้ว ปล่อยจิตวิ่งไป เจ้าของก็วิ่งตามความคิด วิ่งตามโลก วิ่งตามอารมณ์ มันไม่จบ..
บางส่วนจากพระธรรมเทศนา วิปัสสนูกิเลส (๐๔.วิปัสสนูกิเลส, 9.12 - 11.56)
หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดง ผานิมิต
https://drive.google.com/folderview?id=0B6OG_Su4MwGZZzJQZkFDckxyTG8&usp=sharing
0 comments:
Post a Comment