..ง่ายมั้ยล่ะฮึ ง่ายมาก แต่ยากที่สุด ทำไมมันถึงยาก เพราะเราขี้เกียจ ดูนิดๆหน่อยๆก็ เข้าใจแล้วล่ะ กิเลสมันจะบอก..
..เวทนาก็ถอดออกเวทนา เวทนาเป็นตน เวทนาเป็นคนมั้ย คนเป็นเวทนามั้ย เวทนามีอยู่ในตน ตนมีอยู่ในเวทนามั้ย ถามไป จนจบ 5 อย่าง จนเห็นประจักษ์แจ้ง เป็นหลักฐานพยาน ขึ้นในจิตในใจของเรา ว่าไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนอยู่ในขันธ์ 5 จึงเห็นว่าขันธ์ 5 หนิว่าง จากสัตว์บุคคลตัวตนเราเขา จึงเห็นว่าขันธ์ 5 หนิ เป็นขันธ์ว่าง ขันธ์เปล่า ขันธ์เน่าขันธ์เหม็น
ขันธ์ว่าง คือว่างจากสัตว์บุคคลตัวตนเราเขา ขันธ์เปล่าหนิคือไม่มีสาระแก่นสาร พึ่งพาอาศัยไม่ได้ถ้าใจขาดแล้ว ไม่มีแก่นสาร อยู่ไปก็เน่า ขันธ์เน่าขันธ์เหม็น ไม่อาบน้ำไม่แปรงฟันก็เหม็น ผมไม่สะสางก็เหม็น เห็นอย่างงี้ จึงว่าเห็นขันธ์ 5 หนิ เป็นขันธ์ว่างขันธ์เปล่า ขันธ์เน่าขันธ์เหม็น เอาสบู่มาถูออก ก็ยังเน่าอยู่ เอาแปรงสีฟันมาแปรงออก ก็ยัง เหม็นอยู่ปาก ขันธ์เน่า เอาไม้จิ้มฟันไปแหย่เข้ามาดมดู ฟันน่ะ เหม็นคือเก่า เรียกว่าขันธ์เน่าขันธ์เหม็น
ขี้ก็เหม็น ตดก็เหม็น อะไรก็เหม็นหมดอยู่ในหนิ เป็นขี้หมด ไหลออกมาทางตาก็เรียกว่าขี้ ไหลออกมาจากหู ก็เรียกว่าขี้หู ขี้มูก น้ำลายเสมหะ ไม่มีอะไร สะอาด เห็น เรียกว่าก้อนเน่าก้อนเหม็น
จึงเห็นว่าละความเห็นผิดได้ จึงเห็นว่ากายสักแต่ว่ากาย ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเราเขา นี่มิจฉาทิฐิดับลง สัมมาทิฐิก็เกิดขึ้น ความเห็นถูกต้องก็เกิดขึ้น ง่ายมั้ยล่ะฮึ ง่ายมาก แต่ยากที่สุด ทำไมมันถึงยาก เพราะเราขี้เกียจ ดูนิดๆหน่อยๆก็ เข้าใจแล้วล่ะ กิเลสมันจะบอก..
บางส่วนจาก เดินปัญญาแก้ความหลง (16.40 - 19.08)
พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดงผานิมิต
0 comments:
Post a Comment