หลวงตาศิริ อินฺทสิริ ..เราก็สมมติว่าเรา เป็นสมมติบัญญัติขึ้น แต่งตั้งขึ้น บัญญัติขึ้นมาใช้ในโลกนี้เฉย ๆ คำว่าเรา..,
..นี่ล่ะหาหลักฐานพยาน มายืนยันให้เจ้าของ ให้รู้ให้เห็นตามความเป็นจริง ตรงไหนล่ะ น้ำไหนล่ะ น้ำหนองติ เป็นเรา เป็นคน
น้ำเลือดติเป็นคนอยู่นี่ คนมีอยู่ในเลือดนี่ติ น้ำลายติเป็นคน คนเป็นน้ำลาย เวลาเค้าบ้วนน้ำลายทิ้ง คนไปอยู่ไหน คนไปอยู่ไหนเวลาเค้า คากเสลดออก ถ้าน้ำเสลดเป็นคน เป็นเรา
เราไปอยู่ไหน อยู่ในน้ำเสลด ไม่มี เราก็สมมติว่าเรา เป็นสมมติบัญญัติขึ้น แต่งตั้งขึ้น บัญญัติขึ้นมาใช้ในโลกนี้เฉย ๆ คำว่าเรา หาอีก น้ำก็ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนเราเขา
ไล่ไปอีก ลมล่ะ ไหนล่ะ ลมหายใจติเป็นเรา เวลาลมหายใจออกมันไปไหน เราไปอยู่ไหน เวลาลมหายใจออกมา
ลมหายใจเข้าเราไปอยู่ไหน ลมเมื่อวานหนิไปอยู่หน ลมวันนี้ไปอยู่ไหน ลมดันขึ้นเบื้องบน ไปอยู่ไหน ลมดันลงเบื้องล่างไปอยู่ไหน ทำให้ผายลมนั่นน่ะ มันไปไหน ผายออกแล้ว เราอยู่ไหน
เราอยู่ในลมติ เราเป็นลมติ คนหรือเป็นลมหนิ หาให้มันรู้ตามความเป็นจริง ลมมันร้องอึ๊ก ๆ อ๊าก ๆ อยู่ในลำไส้หนิ ลมพัดไปพัดมา ลมหายใจเข้าออก
ไหนล่ะมันเป็นคน จับต้องสัมผัสได้มั้ย ตรงไหนเรียกว่าเป็นคน ดินน้ำลม ไฟก็เมือนกัน ความร้อนแฝงอยู่ในกายของเราหนิ ต้องแยกออก ถามแล้วถามอีก ช้าเป็นกาลนานเป็นประโยชน์..
บางส่วนจาก มรรค ๔ ผล ๔ พระธรรมเทศนาโดย หลวงตาศิริ อินฺทสิริ
https://youtu.be/xIxq3cVaPzs?t=1496 (24:56 - 26:51)
10.4.19
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment