"ลองสังเกตดูซิ มันจะมีความสุขหรือ จิตใจเอียงไปเอียงมาอยู่อย่างเนี่ย"
..เรื่องดีมาถึงเข้าก็ยินดีไปตาม เพลินไปตาม ถ้าสิ่งใดที่ตนปรารถนาก็อยากได้ ดิ้นรนแสวงหา แม้มันจะเป็นบาปเป็นโทษไม่ว่า เมื่อสิ่งใดที่ตนเกลียดชังไม่ต้องการ ก็เบื่อหน่าย อยากจะบัดเอามันออกไปจากตน ให้พ้นๆไป ไม่ต้องการอยากพบอยากเห็นมันเลย ไอ้ความรู้สึกนั้น มันเป็นอยู่อย่างนี้ล่ะ มัน
ลองสังเกตดูซิ มันจะมีความสุขหรือ จิตใจเอียงไปเอียงมาอยู่อย่างเนี่ย นี่หมู่นี้มันล้วนแต่ต้องมีอุบายปัญญาสอนเข้าไปเรื่อยๆแหละ ก็อย่างว่า จิตนี้มันจะละเหตุแห่งทุกข์ได้ มันละได้ด้วยอุบายปัญญา ไม่ใช่อยู่เฉยๆแล้วมันละได้เอง ไม่มีทาง
การทำใจให้สงบลงนั้นมันก็เป็นแต่เพียงว่า ไปกลบกิเลสไว้ เท่านั้นเองนะ ไปครอบกิเลสไว้ ไม่ใช่ว่าเป็นการละกิเลส หรือว่าไปข่มกิเลสไว้ เท่านั้นเองหรอก ทีนี้ตอนที่จะขับไล่กิเลส ออกจากดวงจิตนี้ได้ ก็โดยอาศัยอุบายปัญญาต่างหาก เรามีอุบายปัญญาสอนตนเข้าไป..
บางส่วนจากพระธรรมเทศนา หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ - รูปขันธ์ 29 ก.ย. 31
https://youtu.be/zZFpdfWUkm0?t=23m47s
(23:47 - 25:33)
16.6.17
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment