27.6.17

วิญญาณธาตุก็ได้แก่ใจนี่เอง ใจนี่มันก็เป็นธาตุอันนึง ธาตุรู้ ธาตุน้อมรับอารมณ์ต่างๆ ที่กระทบกระทั่งมา เนี่ย ธาตุเหล่านี้มีหน้าที่ รับรู้สิ่งต่างๆในโลกนี้ พระศาสดาทรงสอนให้พุทธบริษัทเพ่งดูจิตนี้ให้เป็น ธาตุลงไปอย่างหนึ่ง อย่าให้มันไปเห็นว่าจิตเรา ใจเรา อยู่อย่างนั้นตลอดเวลา

BY Somchatchai IN No comments

..วิญญาณธาตุก็ได้แก่ใจนี่เอง ใจนี่มันก็เป็นธาตุอันนึง ธาตุรู้ ธาตุน้อมรับอารมณ์ต่างๆ ที่กระทบกระทั่งมา เนี่ย ธาตุเหล่านี้มีหน้าที่ รับรู้สิ่งต่างๆในโลกนี้ พระศาสดาทรงสอนให้พุทธบริษัทเพ่งดูจิตนี้ให้เป็น ธาตุลงไปอย่างหนึ่ง อย่าให้มันไปเห็นว่าจิตเรา ใจเรา อยู่อย่างนั้นตลอดเวลา

ถ้ามันเห็นไปอย่างนั้น ถ้าเมื่อเวลา เรื่องไม่ดีไม่งามกระทบกระทั่งเข้ามา เช่นยกตัวอย่างว่า มีใครเขาตำหนิติเตียนเอาอย่างงี้นะ แล้วก็ไปวิตกวิจารอยู่นั่นล่ะ เขาว่าให้เราอย่างนั้น เขาด่า เราอย่างนี้ เขาเสียดสีเราอย่างนั้นอย่างนี้ วิตกเท่าใดก็กลุ้มใจขึ้นมาเท่านั้น ทุกข์ใจ หรือมิฉะนั้นก็กลายเป็นความโกรธไป

อย่างนี้แหละ ไอ่การที่เราไม่เพ่งดูใจ อันนี้ให้เห็นจริงตามเป็นจริงแล้ว "มันก็เดือดร้อน ถ้ามันสำคัญว่าใจนี้เป็นของเราแล้ว มันก็หวง" ตัวเองหวงตัวเอง ไม่อยากให้ใครว่าอะไรให้ ถ้าใครว่าเข้ามาแล้วก็เดือดร้อนทันทีเลย อย่างงี้นะ ไม่มีทางแก้ไข

ดังนั้นต้องเพ่งดูจิตดวงนี้ เหมือนกับเพ่งดูร่างกาย เหมือนๆกัน เมื่อเห็นร่างกายนี้ว่า เห็นลงไปอย่างนี้แหละ "จิตมันก็รวมลงไปบัดนี้น่ะ เมื่อมันไม่มีตัวตนแล้วมันก็หยุดคิดลงได้" มันก็ มันก็วางลง เอ้าจะไปคิดให้มันลำบากทำไมล่ะ ก็มันไม่มีตัวมีตนอะไร

ไอ่สิ่งที่คิดถึงอยู่นั่นมันก็ไม่ใช่ตัวตนเราเขา ไม่ใช่ของเขา มันก็เป็นแต่เพียงธาตุดินน้ำไฟลมเท่านั้น จิตที่มันคิดไปหารูปเสียงเหล่านั้น ก็ไม่ใช่ตัวตนอีกเหมือนกัน อย่างงี้นะ นี่แหละ เมื่อเราเห็นลงไปอย่างนี้แล้ว มันก็ มันก็วางลงได้..

บางส่วนจากพระธรรมเทศนา หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ - ยารักษาใจต้องรักษาด้วยธรรม 22 ต.ค. 31
https://youtu.be/zEjDK5Hl4L4?t=28m2s
(28:02 - 30:55)

0 comments:

Post a Comment