แม้จิตจะสงบลงถึง รูปฌาน อรูปฌาน ได้ฌานสมาบัติ 8 ก็ตาม ยังเป็นมิจฉาสมาธิอยู่ ตราบใดเรามาเห็นไตรลักษณ์ญาณในสมาธิ จึงเป็นสัมมาสมาธิ

หลวงตา : มิจฉาสมาธิคือยังงัย, ฆราวาส : มิจฉาสมาธิก็เป็นสมาธิในเรื่องอื่น ที่นอกจากธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ผมเข้าใจว่าอย่างงี้

หลวงตา : สัมมาสมาธิคือ, ฆราวาส : สัมมาสมาธิ คือ ความมีจิตตั้งมั่น โดยถ้าเอาตามที่พระพุทธเจ้าทรง.. ที่ๆเค้าแปลนะครับ  ผมไม่แน่ใจพระพุทธเจ้ารึเปล่า ว่าที่ฌาน 4 จะเป็นตัวสัมมาสมาธิ ที่ฌาน 4 จะเป็นตัวสัมมาสมาธิ ในมรรค 8 แปล

หลวงตา : หลวงตาไม่ได้เข้าใจอย่างงั้น แม้จิตจะสงบลงถึง รูปฌาน อรูปฌาน ได้ฌานสมาบัติ 8 ก็ตาม ยังเป็นมิจฉาสมาธิอยู่ ตราบใดเรามาเห็นไตรลักษณ์ญาณในสมาธิ จึงเป็นสัมมาสมาธิ ความเข้าใจของหลวงตา

..ถ้างั้นเราก็ติดอยู่ในสมาธิ ก็ยังหลงอยู่รูปญาณ อยู่ในขันธ์ 5 คือเก่า ยังเป็นมิจฉาอยู่ ฌานก็คือขันธ์ ละเอียด ขันธ์ละเอียดฌาน   ฌานก็คือขันธ์ 5 นะ เดี๋ยวจะว่าเป็นอย่างอื่นไม่ใช่นะ อารมณ์ที่มากระทบจิต คือรูปภายนอก ว่ามันสงบอย่างงั้นอย่างงี้ ใจเราคือรูปภายในตัวมโน ความรู้ว่าสงบอย่างงั้นอย่างงี้ก็คือนาม รูปกับนามก็คือขันธ์ 5 นั่นเอง

 ถ้าได้ฌานแล้วมาหลง ติดอยู่ในอารัมมณูปนิชฌาน ติดอยู่ในอารมณ์ฌาน ก็เป็นมิจฉาสมาธิ ถ้าต่อเมื่อเรามาเห็น ไตรลักษณ์ญาณถึงจะเป็นสัมมาสมาธิ พอฟังออกมั้ย แต่หลวงตารับรองเฉพาะหลวงตานะ อาจารย์ของท่านอาจจะไปรับรองแบบอื่นก็ได้ หลวงตาหนิรับรอง 100% สำหรับหลวงตา

บางส่วนจาก 013.หลวงตาศิริ อินฺทสิริ พระธรรมเทศนาช่วงกลางคืน 15 พฤศจิกายน 2558
https://www.4shared.com/mp3/Tan2UGMcca/013__15__2558.html
(4:15 - 7:22)