9.5.17

แต่ครั้นพอมีเหตุอะไรกระทบกระทั่งเข้ามานั่นล่ะมันจึงรู้ได้ พระพุทธเจ้ายังได้ตรัสไว้นะ เป็นภาษิตไว้ว่า กำลังใจนี่ รู้ได้ในเวลามีเหตุ เมื่อแปลออกเป็นภาษาไทยแล้ว ได้อย่างนี้ ดังนั้นนะ เราจะไปหวั่นไหวทำไมล่ะ จะไปหวงไว้ ไม่ยอมให้ใครมายกโทษติเตียน ดุด่าว่ากล่าวอะไรเลย หวงไว้ในใจอยู่นั่นแหละ

BY Somchatchai IN No comments

..มันก็จะได้เป็นเครื่องทดสอบ จิตใจตัวเอง เราไม่ต้องไปโทษผู้อื่นเลย ดีแล้วมีเรื่องกระทบกระทั่งมาเราจะได้รู้ว่าจิตนี่มันหวั่นไหวหรือ ไม่หวั่นไหว หนิ ถ้าหากว่าอยู่ดีๆไม่มี เรื่องอะไรมากระทบกระทั่งนี่ มันดีทุกคนแหละ จิตใจนี้น่ะ ดีทั้งนั้นเลย

แต่ครั้นพอมีเหตุอะไรกระทบกระทั่งเข้ามานั่นล่ะมันจึงรู้ได้ พระพุทธเจ้ายังได้ตรัสไว้นะ เป็นภาษิตไว้ว่า กำลังใจนี่ รู้ได้ในเวลามีเหตุ เมื่อแปลออกเป็นภาษาไทยแล้ว ได้อย่างนี้ ดังนั้นนะ เราจะไปหวั่นไหวทำไมล่ะ จะไปหวงไว้ ไม่ยอมให้ใครมายกโทษติเตียน ดุด่าว่ากล่าวอะไรเลย หวงไว้ในใจอยู่นั่นแหละ

พอมันหวงไว้อย่างนั้น ถ้ามีใครบังเอิญใครมาดุด่าว่ากล่าวเข้าไป มันก็เดือดร้อนแหละ นี่มันก็โมโหโทโสขึ้นมาเลย หนิเป็นอย่างนี้ แล้วอย่างนั้นจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรมยังงัยได้ล่ะ

จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ได้ภาวนาเห็นแจ้งในร่างกาย ว่าไม่ใช่ตัวตนอย่างไรได้ มันถือมั่นในตัวตนอยู่ตั้ง 100% นู้นแบบนั้นนะ นี่ต้องคิดดูต้องสำรวจดูตนของตนให้ เสมอๆไป..


บางส่วนจาก พระธรรมเทศนา หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ - สังขารทั้งหลายไม่ใช่ตัวตน 4 เม.ย 31
https://youtu.be/w-UufQCnfPc?t=28m37s
(28:37 - 30:16)

0 comments:

Post a Comment