17.5.17

แต่ก่อนเราไปหายใจทิ้งอยู่ หายใจทิ้งอยู่ ไม่ได้มีสติจับเอาลมหายใจ

BY Somchatchai IN No comments

..แต่ก่อนเราไปหายใจทิ้งอยู่ หายใจทิ้งอยู่ ไม่ได้มีสติจับเอาลมหายใจ //

..อานาปานสติ อานาก็แปลว่าลมหายใจเข้า ปานะ ก็แปลว่าลมหายใจออก สติก็แปลว่าระลึกรู้ เอาสติมาระลึกรู้ลมหายใจเข้าออก เข้าออกอยู่ ทั้งกลางวันกลางคืน ยืนเดินนั่งนอน ก็เรียกว่าภาวนา ไม่ได้ทำยากอะไร

แต่ก่อนเราไปหายใจทิ้งอยู่ หายใจทิ้งอยู่ ไม่ได้มีสติจับเอาลมหายใจ ถ้าจับเอาลมหายใจเห็นลมเข้าลมออก มันไม่สงบก็ตาม อย่าไปคาดไปหมาย ถ้าเห็นลมเข้าลมออกก็แสดงว่าเราเกิดปัญญา เห็นเกิดเห็นดับ ลมเข้าก็เรียกว่าเกิด ลมออกก็เห็นว่าดับ ก็ได้วิปัสสนา ง่ายๆแค่นี้หนา

แต่ต้องให้เห็นอยู่ เข้าออก เข้าออก เข้าออก ก็เห็นอนิจจัง เห็นไตรลักษณ์ญาณ ในลมหายใจ เห็นไตรลักษณ์ญาณ ในขันธ์ 5 ว่าขันธ์ 5 เกิด แล้วก็ดับ หรือลมหายใจ เกิดแล้วก็ดับ เห็นไตรลักษณ์ญาณ เห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

ถ้าดูไปดูมาจิตไม่วางจาก ลม ลมหายใจ ไม่วางจากลมหายใจไปไหน รู้อยู่ที่ลม เข้าออก เข้าออก อยู่ จนลมหายใจเบาลงเบาลง ท่านเรียกว่ากายลหุ ลมหายใจเบาลง กายลหุ ลมหายใจระงับดับลง ก็เรียกว่ากายระงับ ก็เราก็จะเห็นตัวพุทโธ คือผู้รู้ รู้ รู้ รู้ ปรากฏขึ้น ตัวรู้ตัวนี้แหละ เรียกว่าวิญญาณ ที่ลงมาอาศัยอยู่ในตัวของเรา

มันจะแยกตัวออกไปเป็นเอกเทศ เป็นเอกาทิพะโว แยกออกเป็นหนึ่งเดียว ล็อคตัวอยู่ รู้เฉยๆ ก็แสดงว่าเราได้สมถะ หรือเราได้เจโตวิมุตติ จิตดับขันธ์ 5 หลุดพ้นจากขันธ์ 5 ชั่วสมาธิข่มไว้ ก็จะเห็นว่าจิตว่างสว่างไสวผ่องใสเป็นธรรมชาติ ไม่มีตัวตนสัตว์บุคคลอยู่ในนั้น มีแต่รู้เฉย รู้เฉย

ท่านเรียกว่าวิมุตติ จิตหลุดพ้นจากขันธ์ 5 เรียกว่าเจโตวิมุตติ หรือเรียกว่า วิกขัมภนวิมุตติ หลุดพ้นชั่วฌานสะกดไว้ จิตสะกดไว้ก็เรียกว่าได้สมถะขึ้นมา เราก็จะได้เห็นพุทธัมสงฆ์ภายใน เห็นจิตเป็นผู้รู้ เป็นธรรมชาติอยู่ ก็เรียกว่าเห็นพุทธัมสงฆ์ภายใน ได้สรณะที่พึ่งอันประเสริฐ เกิดมาไม่เสียชาติเกิด..

บางส่วนจากพระธรรมเทศนาหลวงตาศิริ อินฺทสิริ - สัมมาทิฏฐิและหน้าที่ชาวพุทธ ๓
https://youtu.be/vWQbPQ9WgPs?t=10m50s
(10:50 - 13:39)

0 comments:

Post a Comment