ต่างคนต่างหวงร่างกายอันนี้ ใครว่าอะไรให้หน่อยหนึ่งก็ไม่ได้เลย ถ้าเป็นเช่นนี้มันจะได้ชื่อว่าเป็นนักปฏิบัติธรรมยังงัย

..แม้อยู่ร่วมกันเป็นหมู่ เป็นพวก อย่างนี้ก็เหมือนกันแหละ ถ้าต่างคนต่างไม่ภาวนา ไม่กำหนดพิจารณาร่างกายอยู่ในปัจจุบันนี้ ไม่เห็นชัดตามเป็นจริงอย่างว่านี้แล้ว มันก็คอยแต่จะทะเลาะวิวาท กันอยู่อย่างงั้นแหละ

เพราะต่างคนต่างก็หวงหนิ หวงร่างกายสังขารนี้ ไม่ต้องการให้ใครมาตำหนิติเตียนแม้แต่น้อยเดียว มันก็มายากลำบากกับความหวงแหนนี้เองแหละ เหตุที่มันเดือดร้อนกัน อยู่ร่วมกัน โดยสันติสุขไม่ได้ ก็เพราะมันหวง

ต่างคนต่างหวงร่างกายอันนี้ ใครว่าอะไรให้หน่อยหนึ่งก็ไม่ได้เลย ถ้าเป็นเช่นนี้มันจะได้ชื่อว่าเป็นนักปฏิบัติธรรมยังงัย

อย่าไปประกาศตนว่าตนปฏิบัติธรรม ถ้าผู้ใดเป็นอยู่อย่างนี้น่ะ ถ้าไปประกาศตนอย่างนั้น ก็นักปราชญ์ทั้งหลายท่านก็หัวเราะ

ถ้าหากว่าเรามีศรัทธา จะเป็นผู้ปฏิบัติธรรมจริง เราก็ต้องยอมเสียสละ ความหวงแหนอัตภาพร่างกายนี้ลง อย่างที่ว่ามานั่นแหละ สละลงทุกสิ่งทุกอย่างเลย อย่างนี้แล้ว มันสะดวกทุกอย่างเลยนะ มันคล่องตัวทีเดียวแหละ

ทำอะไรก็คล่องแคล่ว แล้วทำอะไรร่วมกันก็ไม่ระหองระแหงไม่ระแวงสงสัยกันเลย เพราะว่าไม่ได้สำคัญว่ามีตัวมีตนอยู่ในนี้หนิ อันนี้แหละให้พึงพากันเจริญความรู้ความเห็นอันนี้ ให้เกิดขึ้นในใจเสมอๆ ไปนะ..


บางส่วนจาก อุบายละสังขารรูปนาม
พระธรรมเทศนา หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ

https://youtu.be/4kkGhrfrefA?t=25m
(25:00 - 27:12)