19.1.17

สิ่งทั้งปวงนี้เพราะเราเองเป็นเหตุ เป็นผู้สั่งสมดีชั่วใส่ตัวเอง จึงต้องได้เสวยวิบากกรรมอย่างนั้น เมื่อสอนตนดั่งนี้แล้วก็รู้สึกสังเวชจนน้ำตาไหล จึงชำระใจให้ผ่องใสแล้วยึดพุทโธเจริญสติต่อไป

BY Somchatchai IN No comments

..สิ่งทั้งปวงนี้เพราะเราเองเป็นเหตุ เป็นผู้สั่งสมดีชั่วใส่ตัวเอง จึงต้องได้เสวยวิบากกรรมอย่างนั้น เมื่อสอนตนดั่งนี้แล้วก็รู้สึกสังเวชจนน้ำตาไหล จึงชำระใจให้ผ่องใสแล้วยึดพุทโธเจริญสติต่อไป ไม่นานจิตรวมสงบเป็นสมาธิอีก แสงโอภาสเกิดขึ้น

คู่เวร คู่กรรม.. ในแสงสว่างนั้น นิมิตเห็นตัวเองเป็นหมีใหญ่ มีเมียและมีลูก๒ ตัว พากันทำรังอาศัยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ วันหนึ่งเสือโคร่งใหญ่มากินลูกกับเมีย หมีพ่อกลับมาพบจึงเกิดการต่อสู้กับเสือขึ้น ต่อสู้กันจนตายทั้งคู่ เสือกับหมีเลยกลายเป็นคู่เวรกัน

ชาติต่อมาตนเองมาเกิดเป็นหมูป่าตัวใหญ่ มีเขี้ยวแหลมผงาด เสือตัวนั้นตามมาเกิดเป็นเสือใหญ่อีก พอเห็นกันด้วยอำนาจวิบากกรรมที่เคยเป็นคู่เวรกัน จึงวิ่งเข้าสู้กันจนล้มตายลงทั้งคู่

มาคำนึงว่า (จิตวิญญาณคำนึง) ทำอย่างไรจึงจะพ้นจากคู่เวรคู่กรรมไปได้ พลันก็เห็นลิงนอนอยู่บนปลายไม้สูง เสือไม่มีทางจะขึ้นต้นไม้ไปกินลิงได้ จึงอธิษฐานไปเกิดเป็นลิง ก็ได้เกิดเป็นลิงจริง ๆ

เสวยชาติเป็นลิง มีเมียมีลูกเป็นลิง อยู่มาวันหนึ่งเห็นพระอรหันต์ท่านมาเที่ยวแสวงวิเวกตามราวป่า มีพวกมนุษย์ พวกครุฑ พวกนาค พากันร่วมทำบุญถวายภัตตาหารพระอรหันต์

ตนเองเป็นลิง จึงปรึกษาลูกเมีย หาดอกไม้และผลไม้มาบูชาใส่บาตรด้วยจิตเลื่อมใส อธิษฐานขอให้อานิสงส์ได้ทำบุญครั้งนี้ จงได้พ้นกำเนิดจากความเป็นสัตว์เดรัจฉานเถิด

ต่อมาเมื่อดับจากชาติลิงแล้วได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในศาสนาของพระเจ้าสัทธาเวศภู ก็มีศรัทธาออกบวชเป็นพระ ตั้งใจศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าองค์นั้น และทำการเผยแผ่ศาสนา สร้างบารมีเป็นปฐมเหตุครั้งที่ ๒

ตอนนี้เอง ขณะที่จิตรวมเป็นนิมิตรูปพระภิกษุ ทันใดพระธรรมก็บอกว่า นี้แหละบุพเพชาติปางก่อนที่ท่านได้ทำมา เป็นพระภิกษุในศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์นั้น

 ตอนที่ท่านเป็นพระนั้นมีจิตใจเป็นนักปราชญ์เหมือนพระเวสสันดร ได้ลาภสักการะมา ก็แจกจ่ายให้ทานแก่สมณะพราหมณ์ผู้มีศีล ท่านได้เผยแผ่พระศาสนาจนสิ้นลมดับขันธ์ในผ้าเหลือง

ด้วยอานิสงส์ของการทำตนเป็นคนดีในพระศาสนา จึงส่งผลให้ท่านได้มาบวชเป็นพระอีกในชาตินี้ ทั้งนี้แล้วแต่เหตุปัจจัย คือการประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าให้ถูกต้องทุกอย่าง ทำความเพียรไม่ขาดวรรคไม่ขาดตอน ทั้งวันทั้งคืนยืนเดินนั่งนอนเผากิเลสอยู่เสมอ

ถ้าบุญแต่เก่าก่อนมาสมทบได้สมดุล ก็ตัดวัฏทุกข์ ไปนิพพานได้ ถ้าขาดเหตุ แต่ปัจจัยเต็มแล้ว บวชมาแล้วไม่ได้ปฏิบัติธรรมก็ไปนิพพานไม่ได้ ต้องพร้อมทุกอย่างจึงไปได้ เหตุอ่อนปัจจัยมากก็ไม่ได้ เหตุมากปัจจัยอ่อนก็ไม่ได้ มันต้องพร้อมกัน..


บางส่วนจาก ชาติปางก่อน ของ พระอาจารย์จันทา ถาวโร

http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-chanta/lp-chanta-02-02.htm

0 comments:

Post a Comment