..กัปหนึ่ง ๆ นั้นมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ทีละองค์บ้าง ทีละสององค์บ้าง สามองค์บ้าง ถ้าเป็นภัทรกัป กัปใหญ่ก็มาตรัสรู้ถึง ๔-๕ องค์ ดังภัทรกัปของเราทุกวันนี้มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ ๕ พระองค์คือพระอริยเมตไตรย เป็นองค์ที่ ๕ นี้เรียกว่ากัปหนึ่ง ๆ พอสิ้นกัปนี้แล้วก็เป็นสุญญกัป
ในสุญญกัปนั้นแลเป็นกัปที่สัตว์โลกทั้งหลายได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด ไม่มีน้ำไม่มีเครื่องเยียวยารักษาเลย มีแต่ความทุกข์ความทรมานล้วน ๆ จนกว่าว่ากัปนี้ผ่านไปกัปหน้าผ่านมาแล้วพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ถึงจะได้สร้างคุณงามความดี ถึงจะได้ค่อยรอดพ้นไปได้
บรรดาสัตว์ที่รออยู่แล้วก็เลยรอดพ้นในเวลาที่พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้แต่ละพระองค์ ๆ นี่พวกเราทั้งหลายก็ได้เกิดมาอยู่ในภัทรกัปคือกัปของพระพุทธเจ้า พระสมณโคดม จากนี้ไปก็จะเป็นพระอริยเมตไตรยมา
เราอย่ารอพระอริยเมตไตรย ให้สร้างความดีเสียตั้งแต่พระสมณโคดมที่ยังทรงอรรถทรงธรรมไว้ ให้พวกเราทั้งหลายได้รับการปฏิบัติกราบไหว้บูชาอยู่ทุกวันนี้ให้เป็นขวัญใจให้มีหลักใจ คนมีหลักใจเรียกว่ามีหลักธรรม ไปที่ไหนไม่ค่อยผิดพลาดเกิดที่ใดไม่ผิดพลาด
เกิดในสถานที่ดี คติที่เหมาะสมคนมีหลักใจ คนไม่มีหลักใจไขว่คว้าเหมือนกับคนตกน้ำไม่มีที่เกาะ มีแต่รอความตายเป็นท่าเดียวเท่านั้น ถ้าคนตกน้ำมีที่เกาะ ก็ยังพอยึดพอเกาะไปได้ นี่คนเวลาเกิดมามีคุณงามความดีก็เรียกว่าเราตกน้ำแห่งความเกิด ความเกิดนี้เป็นทุกข์ เราก็ได้อาศัยเกาะคุณงามความดีนั้นไว้แล้วผ่านพ้นไปได้ด้วยความปลอดภัย..
บางส่วนจาก สร้างความดีอย่ารอพระอริยเมตไตรย
พระธรรมเทศนา หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๙
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=1233&CatID=2
16.1.17
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment