กลิ่นมนุษย์ย่อมปรากฏแก่เทวดาทั้งหลาย เหมือนซากศพที่ผูกไว้ที่คอ ตั้งแต่ ๑๐๐ โยชน์ขึ้นไป..//
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในเวฬุวคาม ทรงปรารภท้าวสักกะ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " สาหุ ทสฺสนํ " เป็นต้น.
ความพิสดารว่า ท้าวสักกเทวราชทรงทราบความที่พระอาพาธ มี อันแล่นไปแห่งพระโลหิตเป็นสมุฏฐาน(อาพาธลงพระโลหิต) เกิดขึ้นแล้วแก่พระตถาคต ใน เมื่อพระองค์ทรงปลงอายุสังขารแล้ว ทรงดำริว่า " การที่เราไปสู่สำนัก ของพระศาสดาแล้ว ทำคิลานุปัฏฐากย่อมควร "
ทรงละอัตภาพประมาณ ๓ คาวุตเสีย เข้าไปเฝ้าพระศาสดา ถวายบังคมแล้ว ทรงนวดพระบาทด้วย พระหัตถ์ทั้งสอง,
ครั้งนั้นพระศาสดาตรัสกะท้าวสักกะนั้นว่า " นั่นใคร ? "
ท้าวสักกะ. ข้าพระองค์ คือท้าวสักกะ พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. ท่านมาทำไม ?
ท้าวสักกะ. มาเพื่อบำรุงพระองค์ผู้ประชวร พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. ท้าวสักกะ กลิ่นมนุษย์ย่อมปรากฏแก่เทวดาทั้งหลาย เหมือนซากศพที่ผูกไว้ที่คอ ตั้งแต่ ๑๐๐ โยชน์ขึ้นไป, ท่านจงไปเถิด, ภิกษุผู้คิลานุปัฏฐากของเรามี.
ท้าวสักกะกราบทูลว่า " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แม้ข้าพระองค์ดำรง อยู่ในที่สุดแห่ง ๘ หมื่น ๔ พันโยชน์ สูดกลิ่นแห่งศีลของพระองค์มา แล้ว. ข้าพระองค์นี่แหละจักบำรุง " แล้วไม่ให้บุคคลอื่นถูกต้องภาชนะ พระบังคนหนักของพระศาสดาแม้ด้วยมือ ทรงทูนไว้บนพระเศียรทีเดียว นำไปอยู่ ไม่ได้กระทำแม้อาการสักว่าการสยิ้วพระพักตร์, ได้เป็นดุจนำ ภาชนะของหอมไป.
ท้าวเธอปฏิบัติพระศาสดาอย่างนี้แล้ว ในเวลา พระศาสดามีความสำราญนั่นแหละ จึงได้เสด็จไป.
บางส่วนจากเรื่อง ท้าวสักกะ
พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับมหามกุฏฯ) เล่มที่ ๔๒ หน้าที่ ๓๘๔ - ๓๘๕
สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่มที่ ๑ ภาคที่ ๒
http://etipitaka.com/read/thaimm/42/384/
5.11.16
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment