..มาเห็นตัวพุทโธหนิ มันคิดอะไรไม่ออก ไม่มีอารมณ์ไปผสมจิตได้ จิตจะล็อคตัวอยู่ สัญญาไม่เข้าไปประกอบจิตได้ เรียกว่าวิสังขาร ไม่มีสังขารไปปรุงแต่งจิตได้ จิตก็ว่างเป็นธรรมชาติ รู้ๆอยู่นะ พุทโธ เรียกว่าพุทโธ
เห็น ดูไปดูไป ตัวผู้รู้ๆๆ หนิเอ๊ มันรู้อยู่อย่างงี้ ดูไปจน เอาสติไปรู้กับผู้รู้ รู้ๆๆๆ อยู่อย่างงี้ เราจึงมาเข้าใจ อ๋อหนิ ตัวพุทโธหนิ มันตายไม่เป็นตั๊วหนิ ท่านจึงเรียกว่าอมตะ อมตจิต อมตธาตุ อมตธรรม นี่แหละปัญญาจะไปรู้จากไหน เห็นเป็นธรรมชาติ ไม่มีจุติ ไม่มีเคลื่อนที่ ไม่มีกาลเวลา มาประกอบจิตตัวนี้ได้
ท่านก็ตั้งว่าอกาลิโกจิต อกาลิโกธาตุ อกาลิโกธรรม นั่งบัดเดียว คราวเดียว ว่าแม่นงีบเดียว คราวเดียว ถอนออกมาได้ 2 ชม. 3 ชม.แล้ว กาลเวลาไม่เข้าไปประกอบจิตได้ จิตจึงว่างเป็นสุญญตา อยู่นั้นล่ะ ขันธ์ 5 ไปไหน ไม่มี ลมหายกายไม่มีแล้ว ลมหายกายไม่มี มีแต่ความรู้อยู่เฉยๆ สัตว์บุคคลตัวตนไปไหนล่ะ ที่เรามาถือเอาว่าเป็น สัตว์บุคคลตัวตนเราเขาอยู่หนิ
ตอนนั่งสมาธิจิตลงถึงฐานใหญ่ สัตว์บุคคล ตัวตนไม่มี สัญญาอารมณ์ไม่มี สัญญา สมมติที่โลกเขาตั้งสมมติขึ้นมา นั่นน่ะ เขาเรียกว่าสัญญา ไปไหนล่ะสัตว์บุคคลตัวตน เขาสมมมติว่าสัตว์ ว่าคน ว่าเรา ว่าเขา มันไปไหน ไม่มี เอโกธัมโมนั่นน่ะ เป็นธรรมชาติหนึ่งเดียวอยู่เท่านั้น
ว่างสว่างไสว ผ่องใส ว่างจากสมมติ ว่างจากสัญญา ว่างจากอารมณ์ มีแต่รู้ๆๆๆ ตื่น เบิกบาน อยู่ในธรรมชาติ อยู่งั้น นี่แหละเรียกว่าวิมุตติสุข ธรรมธาตุตัวนี้ เบิกบาน แช่มชื่นเบิกบาน นี่แหละ อารมณ์วิมุตติสุข สุญญตา ไม่มีอะไร ว่าง แช่มชื่นเบิกบานอยู่ในสุญญตาอยู่ในธรรมชาติอันนั้น
ราบเหมือนหน้ากลองชัย โลกทั้งหมดย่อลงมาเหลืออยู่ธรรมชาติอันเดียวนี่หมด หายสงสัย วิจิกิจฉา ความโลเลสงสัย ว่าสัตว์บุคคลตัวตนเราเขา มีอยู่ในขันธ์ 5 หนิ ดับหายไปเหมือนปลิดทิ้งเลย
จะไปดูที่ไหนล่ะปัญญา มันกว้างเหลือเกิน จิตว่างจากสัญญาหนิ พระพุทธองค์ตรัสเอาไว้ นั่นแหละคือปัญญา ปัญญาแท้ๆจริง ไม่ได้อยู่ที่อื่น คือจิตว่างจากสัญญานี่แหละ เรียกว่าปัญญา เราไปพิจารณา อ๋อ มันไม่มีอะไร เราก็รู้เห็นตามความเป็นจริงนี่ละ ว่าไม่อะไร เป็นธรรมชาติ หนึ่งเดียวอยู่เท่านี้
นี่แหละเรียกว่าดวงตาเห็นธรรม เห็นธรรมชาติ ไม่มีอะไร เอโกธัมโม ธรรมชาติหนึ่งเดียวอยู่ สัตว์บุคคลที่เราคิดว่ามันมีอยู่ ในขันธ์ 5 มันไปไหน ตัวตนไปไหน ลมหายกายไม่มี ดับสัญญาหมด ว่างเป็นสุญญตาอยู่เท่านั้นจิต สุญญตามหาปุริสา
เราก็เอาอารมณ์นี้แหละ อารมณ์พระนิพพาน ดับสัญญา ดับโลกดับอารมณ์ เป็นวิมุตติสุข ดับสมมติได้หมด จิตก็เสวยวิมุตติสุข รู้ๆเฉย อยู่ นี่ล่ะ คือปัญญา..
บางส่วนจาก พระธรรมเทศนาหลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดงผานิมิต แสดงธรรมหลังทำวัตรเย็นวันที่ ๒๕ ม.ค. ๒๕๕๙ - สุญญตา
https://youtu.be/Q-_9eLOuY84?t=7m37s (7:37 - 12:31)
21.11.16
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment