มรรคผลนิพพานมีอยู่ถ้วนทั่วทุกตัวคน มีอยู่ถ้วนทั่วทุกตัวสัตว์ แต่เราไม่ขยันค้นคว้าหาเฉยๆ

..มรรคผลนิพพานมีอยู่ถ้วนทั่วทุกตัวคน มีอยู่ถ้วนทั่วทุกตัวสัตว์ แต่เราไม่ขยันค้นคว้าหาเฉยๆ มาพูดกันว่า มรรคผลนิพพาน หมดกาลหมดสมัยแล้วนั่น มันไม่หมด อกาลิโก ไม่จำกัดกาลเวลา ไม่จำกัดสถานที่ ถ้ามันหมด พระพุทธองค์จะตรัสอกาลิโกไว้ทำไม สันทิฏฐิโก นั่นน่ะ ผู้ปฏิบัติพึงรู้เองเห็นเอง  ปฏิบัติลงที่กายเจ้าของ วาจาเจ้าของ ใจเจ้าของ นี่ล่ะ นั่งอยู่นี่ปฏิบัติอยู่นี่

เห็นอะไร เห็นเอง เห็นจิตสงบ ก็ผู้ปฏิบัตินี่แหละ เห็นจิตเจ้าของสงบ รู้ว่าจิตเจ้าของสงบ ผู้ปฏิบัติใส่ลมหายใจนี่แหละ จึงเห็นลมหายใจเข้าออก อกาลิโก ไม่มีกาลเวลา ดูเวลาไหนก็ได้ ปฏิบัติเวลาไหนก็ได้ เนี่ยมรรค มรรคคือทาง มรรคโค มรรคา มรรคี คือทาง ทางดำเนินออกจากทุกข์ มรรคมีองค์ 8

มันจะหมดทำไม มันจะหมดไปไหน ปฏิบัตินี่แหละ เอาไรเดิน เอาไรเดิน เอาไรเดิน อะไรเดิน เอาจิตนี่แหล่ว มรรคา มรรคโค มรรคี ทางเดินของจิต ทางเดินของใจ ทางเดินของเรานี่ล่ะ เรียกว่ามรรคมีองค์ 8 ย่อลงมาเหลืออยู่ ศีล สมาธิ ปัญญา ไม่ได้อยู่ที่ไหน ศีลน่ะ ศีลของกาย ศีลของวาจา ศีลของใจ

ศีลย่นย่อลงมาเหลืออยู่ที่ใจเท่านั้น ใจหนิแหละสั่งกายไปทำ สั่งคำไปพูด บาปทุจริตได้ รักษาใจตัวเดียว ศีลหมายถึงใจปกตินะ สมาธิก็เหมือน จิตตั้งมั่นใจตั้งมั่น ปัญญาคือใจรอบรู้ในกองสังขาร

มันจะหมดที่ไหน ศีลก็หมายถึงใจของเรานี่แหละ สมาธิก็หมายถึงใจนี่แหละ ปัญญาก็หมายถึงใจนี่แหละ ใจมันหมดแล้วหรือ ใจของคนน่ะ ลมหายใจมีอยู่ ใจมันอยู่ที่ลมนั่นน่ะ ลมหายใจนั่นล่ะ มันหมดแล้วเหรอ ทำไมถึงว่าหมดกาลหมดสมัยแล้ว ไม่มีหรอก ว่างั้นนะ

ถ้าใครปฏิบัติลงใส่มรรค 8 พระนิพพานก็ไม่ว่างเว้นจากโลกไป ถ้ามีคนปฏิบัติอยู่ ถ้าไม่มีคนปฏิบัติอยู่มันจึง ไม่มีพระนิพพานนั่นน่ะ ให้พากันเข้าใจอย่างนี้ นะ มันมีอยู่ถ้วนทั่วทุกตัวคนนี่ล่ะ พระนิพพาน แต่เราไม่ปฏิบัติ ไม่ค้นคว้า ไม่แสวงหาพระนิพพานเฉยๆ..

บางส่วนจาก สมบัติของศีล  (07:46 - 10:47)
พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดง ผานิมิต

https://drive.google.com/file/d/0B6OG_Su4MwGZRHhfV2ZfMFFFU1U/view?usp=sharing