..ธรรมชาติมันราบ เหมือนหน้ากลองชัย ไม่มีตัวตนสัตว์บุคคล ต้นไม้ภูเขาเลากา ไม่มี ราบเป็นอันเดียวกันหมด ที่มาตั้งสมมติว่าเราว่าเขาว่าตัวว่าตน มาตั้งสมมติให้ก้อนสกลกายนี้เฉยๆ
ถ้าเราไปเห็นสมาธิแล้วจะมีหลักฐานพยาน ผู้ได้สมาธิจึงเกิดปัญญาเร็วกว่า
เราออกจากสมาธิก็จะเอาพุทโธ ธัมโม สังโฆ มายืนโดย เมื่อความรู้ความเห็นเกิดขึ้นมา ก็ไม่ใช่เราเห็น เราไม่มี เรามีอยู่ที่ไหน ตอนเข้าสมาธิเราไปไหน ตอนนอนหลับเราไปไหน มันจะยืนยันเจ้าของขึ้นมา
ถ้าคนไม่ได้สมาธิก็มาพูดว่า เราไม่มี เราไม่มี เฉยๆ มันจึงดับอารมณ์ยาก
ถ้าผู้ได้สมาธิก็เห็นว่าเราไม่มี จะไปหาอะไรกับเรา ไม่มีผู้ใดเห็นอุปาทานเอา เมื่อฝันก็เหมือนกัน ฝันดีฝันร้าย ก็ไปยึดอุปาทานเอา เราเห็นที่ไหน เราไม่เห็น ถ้าเราไม่มีมันก็หมดเรื่องไป ใครจะไปอุปาทานเอา เพราะความโง่ความหลงนี่เอง
มาภาวนาก็เพื่อให้รู้ความจริง ให้เห็นความจริง ไม่ให้มันโง่มันหลง มาภาวนาแก้โง่แก้หลง..
บางส่วนจากพระธรรมเทศนา ทวารสมมติ ทวารวิมุตติ (๐๗.ทวารสมมติ ทวารวิมุตติ, 39:07 - 40:36)
หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดง ผานิมิต
https://drive.google.com/folderview?id=0B6OG_Su4MwGZZzJQZkFDckxyTG8&usp=sharing
0 comments:
Post a Comment