..รู้จริงคือรู้ รู้อะไร รู้จริง รู้ว่าสังขารมันเกิดมันดับ
รู้ว่าสิ่งทั้งหลายมันเกิดมันดับอยู่ รู้ว่าขันธ์5
มันเกิดกับดับพร้อมกันอยู่อย่างงี้ จึงเรียกว่าสัจจะ คือรู้จริง
รู้สัจจะนี่ล่ะ คือความจริงนี่ล่ะ มันเกิดแล้วมันก็ดับ เราไม่พิจารณา
ไม่เห็นเกิด ไม่เห็นดับ
อย่างเสียง มันเกิดขึ้นเมื่อกี๊ ดับแล้วหนิ
เป็นอดีตไปแล้ว แต่เราจะไปปรุงนะทีนี้ สังขารนะนี่ "อวิชชาปัจจะยา
สังขารา" ความปรุงแต่งเพราะว่าหลง รู้ไม่จริง ว่าเสียงมันเกิดมันดับแล้ว
นี่คือความจริง
ถ้าเกิดดับแล้ว ใจเรายังไปกำหนัดขัดเคืองอยู่ในเสียง
ก็เลยเอามาปรุงว่าโอ๊ย เสียงมันไม่ถูกหรือเสียงถูก ไม่ถูก
หรือเสียงมันไม่เพราะ หรือเสียงมันไม่ดี หรือว่าเสียงมันหนวกหูรำคาญ
นี่ๆเรียกว่าปรุงแต่งแล้วนะนี่ เรียกว่าปรุงแต่งแล้วนะ
เรียกว่าสังขารแล้วนะ คือความปรุงแต่ง จิตมาปรุงแต่ง
เมื่อปรุงแต่งว่าดีก็เกิดความโลภ เมื่อปรุงแต่งว่าไม่ดีก็เกิดความโกรธ
มันก็มีแค่นี่นะ ดับความโลภความโกรธได้ จะไปถามหาที่ไหน
มีถ้วนทั่วทุกตัวสัตว์ มั้ยทีนี้
นั่นแหละดับได้ ถ้าดับได้
มันดับแล้วมันไม่ดับนั่นน้า มันเอามาปรุงว่าโอ๊ยมันเสียง หนวกหู มันรำคาญ
อย่างงั้นอย่างงี้ นี่เรียกว่าสังขารนะนี่
ความนึกคิดปรุงแต่งเกิดขึ้นเรียกว่าสังขาร มันทำไมถึงมาเกิดสังขาร
เพราะอวิชชา เพราะไม่รู้ รู้หลงอยู่ รู้ผิดอยู่ ถ้าวิชชา
มันดับแล้วก็คือแล้วไป นี่คือรู้จริง..
https://drive.google.com/file/d/0B6OG_Su4MwGZdVk5RkJNSjVfQVE/view?usp=sharing
บางส่วนจาก อบรมจิต (11:42 - 13:48)
พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดง ผานิมิต
23.3.16
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment