..จิตกับเครื่องปรุงจิตคือสังขาร เป็นคนละประเภท ไม่ใช่อันเดียวกัน
ไม่เช่นนั้นจิตกับสังขารจะคละเคล้ากัน ซึ่งจะทำความลำบากแก่การพิจารณา
ตามที่อธิบายมาแล้ว
โดยกำหนดความเกิดขึ้น
และความเกี่ยวข้องของสังขาร สัมผัสกับอารมณ์อะไร
พร้อมทั้งความดับไปของสังขารกับอารมณ์ พยายามสังเกต
และสอดรู้ความเคลื่อนไหวของสังขาร
ซึ่งจะเคลื่อนจากใจออกสู่อารมณ์ที่เป็นอดีตบ้าง อนาคตบ้าง ทั้งหยาบ
และละเอียด
และโปรดทราบเสมอว่าทุก ๆ ประเภทของสังขาร และอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกัน ต้องเกิดและดับพร้อมกัน จะให้เป็นอื่นไปไม่ได้
คำว่าสัตว์ บุคคล เรา เขา เป็นต้น จึงไม่ควรนำเข้าไปแทรกในจิต
เพราะจะแปรรูปเป็นสมุทัยขึ้นมาทันที จงพยายามสังเกตให้ทราบว่า
มันเป็นเพียงจิตสังขารอยู่เท่านั้น ทุก ๆ ขณะที่ปรุงแต่งขึ้นมา
ปัญญาต้องมีทางทราบได้ตามลำดับแห่งการพิจารณา และต้องทราบตามนัยที่ท่านบอกไว้ว่า สักว่าจิตเท่านั้น ไม่ใช่สัตว์ บุคคล เรา เขา อะไรเลย
ผู้พิจารณาเห็นตามจิตตานุปัสสนา ใจจะไม่เกิดความเศร้าโศกเสียใจ และเพลิดเพลินไปตามความปรุงแต่ง และสภาพความเป็นอยู่ สุข-ทุกข์ของจิต และชื่อว่าผู้มีจิตตานุปัสสนาประจำตน..
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=794&CatID=9
บางส่วนจาก สติปัฏฐานสี่
พระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๐๕
ปัญญาต้องมีทางทราบได้ตามลำดับแห่งการพิจารณา และต้องทราบตามนัยที่ท่านบอกไว้ว่า สักว่าจิตเท่านั้น ไม่ใช่สัตว์ บุคคล เรา เขา อะไรเลย
ผู้พิจารณาเห็นตามจิตตานุปัสสนา ใจจะไม่เกิดความเศร้าโศกเสียใจ และเพลิดเพลินไปตามความปรุงแต่ง และสภาพความเป็นอยู่ สุข-ทุกข์ของจิต และชื่อว่าผู้มีจิตตานุปัสสนาประจำตน..
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text.php?ID=794&CatID=9
บางส่วนจาก สติปัฏฐานสี่
พระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
๒๕ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๐๕
0 comments:
Post a Comment