15.3.16

แต่ก่อนทานอันอื่น ไม่ ไม่สำเร็จ พอมาจาคะขันธ์ 5 ออกหนิ จิตเป็นพุทโธ จิตเป็นเอกเทศ เอกัคคตาจิต เอกัคคตารมณ์ เป็นเอกเทศหนึ่งเดียวอยู่

BY Somchatchai IN No comments

..เมื่อภพสุดท้ายมา อุบัติมากำเนิดเกิดขึ้น เป็นเจ้าชายสิทธัตถะ จึงมาบำเพ็ญภาวนา ทาน ไม่ได้ทานอย่างอื่นดอก ปรมัตถทาน คือเรานั่งสมาธินี่แหละ ไกลความคิดเรามั้ยล่ะทาน ทานอะไรก็ ข้าวของทองเงินก็ทานหมดแล้ว ไม่มีอะไร

มาชาติสุดท้าย เป็นเจ้าชายสิทธัตถะ นี่ก็ ออก ทานหมด ออกหนีไปบวช ออกหนีไปบวชสร้างบารมีอย่างใหญ่หลวงล่ะทีนี้ นี่ล่ะทานบารมี ไปนั่งสมาธิหนิ จิตสงบว่างลง มันจิตจาคะขันธ์ 5 ออก สละขันธ์ 5 ออก เรียกว่าทานขันธ์ 5 ได้ แต่ก่อนทานอันอื่น ไม่ ไม่สำเร็จ พอมาจาคะขันธ์ 5 ออกหนิ จิตเป็นพุทโธ จิตเป็นเอกเทศ เอกัคคตาจิต เอกัคคตารมณ์ เป็นเอกเทศหนึ่งเดียวอยู่

ไม่มาถือเอาขันธ์ 5 จาคะขันธ์ 5 ออกได้ พระพุทธองค์จึงสำเร็จ ขั้นปรมัตถทาน

มีใครล่ะกล้าทานขันธ์ 5 ทานก็ทานไม่เป็นดอก ทานขันธ์ 5 ทานกายเจ้าของทานนั่นเจ้าของไป ให้คนไปเป็นข้าทาสคนใช้ก็ยังไม่ใช่ไม่ถูก ต้องมานั่งสมาธิ เอาจิตมาเสพอยู่ กับคำบริกรรมหรือธรรมบทใดบทหนึ่ง

จนลมหาย กายไม่มี กายลมก็ไม่มี กายเนื้อ กายหนัง กายหยาบ กายเน่า กายเหม็น ก็ไม่มี เหลือตั้งแต่จิตดวงเดียว เป็นเอกเทศอยู่ เป็นธรรมชาติอยู่ จึงเรียกว่า ปรมัตถทาน ทานขันธ์ 5 ออก

จึงเห็น จึงเห็นอารมณ์พระนิพพาน ใกล้แล้วทีนี้ ยังไม่ถึงนะ เพียงแต่เห็นอารมณ์พระนิพพานเท่านั้น ยังไม่ถึงพระนิพพานนะ เป้าหมาย อันนี้ก็พูดเรื่องทาน..

https://www.youtube.com/watch?v=Xk4vJAxOSVw

บางส่วนจาก บารมี (12:27 - 14:49)

พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดง ผานิมิต

0 comments:

Post a Comment