ลัทธิกรรมเก่า ..ลัทธินิครนถ์นี้ถือว่า อะไรๆ
ก็เป็นเพราะกรรมที่ทำไว้ในชาติก่อน
เพราะฉะนั้นเราจะต้องทำให้สิ้นกรรมโดยไม่ทำกรรมใหม่ และ
เผากรรมเก่าให้หมดสิ้นไปด้วยการบำเพ็ญตบะ
ลัทธินี้ต้องแยกให้ดีจากพุทธศาสนา..
..ลัทธิที่ ๑ ถือว่า
บุคคลจะได้สุขก็ดี จะได้ทุกข์ก็ดี มิใช่สุขมิใช่ทุกข์ก็ดี
ล้วนเป็นเพราะกรรมที่ทำไว้แต่ปางก่อนทั้งสิ้น (ฟังให้ดีระวังนะ
จะสับสนกับพระพุทธศาสนา) ลัทธินี้เรียกว่า บุพเพกตวาท..
..โดยเฉพาะลัทธิที่ ๑ นั้น ถือว่าอะไรๆ ก็แล้วแต่กรรมปางก่อน มันจะเป็นอย่างไรก็สุดแต่กร
รมเก่า เราจะทำ อะไรก็ไม่มีประโยชน์ กรรมปางก่อนมันกำหนดไว้หมดแล้ว
แล้วเราจะไปทำ อะไรได้ ก็ต้องปล่อย คอยรอ แล้วแต่มันจะเป็นไป
พระพุทธเจ้าตรัสว่า ลัทธินี้เป็นลัทธิของพวกนิครนถ์
หัวหน้าชื่อว่านิครนถนาฏบุตร
..๑. บุพเพกตวาท ถือว่าอะไรๆ ก็เป็นเพราะกรรมที่ทำไว้ปางก่อน
๒. อิศวรนิรมิตวาท ถือว่าจะเป็นอะไรๆ ก็เพราะเทพผู้ยิ่งใหญ่บันดาล หรือพระผู้เป็นเจ้าบันดาล
๓. อเหตุวาท ถือว่าสิ่งทั้งหลายอะไรจะเกิดขึ้น ไม่มีเหตุปัจจัย แล้วแต่จะบังเอิญเป็นไป คือลัทธิโชคชะตา
สามลัทธินี้พระพุทธเจ้าตรัสว่า เป็นลัทธิที่ผิด..
http://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/karma_principles_for_modern_people.pdf
บางส่วนจาก หลักกรรมสำหรับคนสมัยใหม่ หน้า หน้า 14-16
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต)
..พระผู้มีพระภาคได้ตรัสดังนี้ว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย มีสมณพราหมณ์ พวกหนึ่ง มีวาทะอย่างนี้ มีทิฐิอย่างนี้ว่า
ปุริสบุคคลนี้ย่อมเสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสุขก็ดี เป็นทุกข์ก็ดี มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ดี ข้อนั้นทั้งหมดเป็นเพราะเหตุแห่งกรรมที่ตนทำไว้ในก่อน ทั้งนี้ เพราะหมดกรรมเก่าด้วยตบะ ไม่ทำกรรมใหม่จักมีความไม่ถูกบังคับต่อไป เพราะไม่ ถูกบังคับต่อไป
จักมีความสิ้นกรรม เพราะสิ้นกรรม จักมีความสิ้นทุกข์ เพราะสิ้น ทุกข์ จักมีความสิ้นเวทนา เพราะสิ้นเวทนา ทุกข์ทั้งปวงจักเป็นของอันปุริสบุคคลนั้นสลัดได้แล้ว ดูกรภิกษุทั้งหลายพวกนิครนถ์มักมีวาทะอย่างนี้ ฯ..
http://etipitaka.com/read/thai/14/1/ พระไตรปิฎก ไทย (ฉบับหลวง) เล่มที่ ๑๔ หน้าที่ ๑
0 comments:
Post a Comment