..ถ้าไม่รู้จักปัจจุบันธรรม ก็รู้สึกว่าแย่อยู่ นักปฏิบัติทั้งหลาย ปฏิบัติไปหาอะไร แม้ปัจจุบันธรรมก็ยังไม่รู้จัก คำว่าปัจจุบันก็คงพอเข้าใจแล้ว ปัจจุบันก็คือขณะนี้ เดี๋ยวนี้แหละเรียกว่าปัจจุบัน ปัจจุบันธรรม.. ธรรมคืออะไรทีนี้ ธรรมทั้งหลายย่นย่อลงมาเหลืออยู่กายกับใจ หรือรูปธรรมนามธรรม
ให้เห็นปัจจุบันธรรม ก็คือให้เห็นรูปธรรมนามธรรม มันเกิดแล้วก็ดับ เข้าใจมั้ยล่ะทีนี้ รูปธรรมนามธรรม คือขันธ์ 5 นั่นแหละ มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป..
..ที่นี่รูปนามมันเกิดดับได้ยังงัย ท่านให้สังเกต สังเกตจนรู้จนเห็นว่ามันเกิดมันดับ ปัจจยาการ การที่รูปกับนามอิงอาศัยกันเกิด เกิดแล้วก็ดับ นี่แหละปัจจุบันธรรม ธรรมทั้งหลายคือกายกับใจ กายกับใจอิงอาศัยกันเกิด รูปกับนามอิงอาศัยกันเกิด เกิดดับ เกิดดับ เป็นต้นว่า ตานี่ล่ะเห็นรูป เกิด เกิดแล้วก็ดับ ตาเห็นรูปแล้วก็ดับนั่นล่ะ เกิดกับดับมันติดกันมากนะ จนเราไม่รู้จักว่ามันเกิดมันดับ..
..ตากับรูปยังไม่กระทบกันก็เป็นอนาคตอยู่ เมื่อกระทบกันขึ้นก็เป็นปัจจุบัน อายตนะ ภายนอกภายในกระทบกันนั่นน่ะ เกิดขึ้น ทุกข์เกิดขึ้น ทุกข์ตั้งอยู่ ทุกข์ดับไป อิทัง ทุกขัง อะริยะสัจจันติ เม ภิกขะเว นี่แหละ พระพุทธองค์ตรัสเอาไว้ นี่แหละ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทุกข์คืออริยสัจจริง นี่แหละทุกข์ คือสัจจะคือความจริง เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป นี่ผู้ใดเห็นอย่างนี้ก็เรียกเห็นธรรม เห็นสัจจะ เห็นสัจจะเห็นความจริง ก็เรียกว่าเห็นธรรม
ขันธ์ 5 มันก็เกิดอยู่อย่างงี้ อายตนะภายนอกภายในกระทบกันเมื่อไหร่ ก็เกิดความรู้เกิดขึ้น รู้สึกเกิดขึ้น ความรู้สึกนึกคิดเกิดขึ้น นาม4 ก็เกิดขึ้นพร้อมกัน เกิดกับดับพร้อมกัน เหมือนสายฟ้าแลบล่ะแพลบ ตาเห็นรูปก็แพลบอีก ขันธ์ 5 เกิดอีก หูได้ยินเสียง ก็แพลบอีก
เกิดดับมันติดกัน อยู่ จึงให้เราท่านทั้งหลายสังเกตเกิดดับ ให้เห็น จึงจะเห็นทุกข์ นั่นน่ะ มองทุกข์ให้เห็นจึงจะเป็นสุข ถ้าไม่รู้จักทุกข์ มันก็ดับทุกข์ละทุกข์วางทุกข์ไม่ได้ มันก็ไม่เห็นสุข
พระพุทธองค์จึงตรัสว่า มองทุกข์ให้เห็น จึงจะเป็นสุขนั่น มองยังงัย ก็พิจารณาดู ปัจจุบันธรรมนี่แหละ ธรรมที่อิงอาศัยกันเกิด นามกับรูปอาศัยกันเกิด เกิดขึ้นแล้วก็ดับ เกิดแล้วก็ดับ เนี่ยเป็นสัจจะไม่มีใครบังคับไม่มีใครห้ามได้ ไม่ให้ตาเห็นรูป ไม่ให้หูได้ยินเสียง เห็นแล้วมันก็ดับ ไม่มี ใครห้ามไม่ให้ดับได้ จึงเรียกว่าสัจจะคือความจริง..
บางส่วนจาก ปัจจุบันธรรม (1:50 - 2:47, 4:05 - 4:49, 10:02 - 12:14)
พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ วัดถ้ำผาแดง ผานิมิต
0 comments:
Post a Comment