หลวงตาศิริ อินฺทสิริ ..ก้อนธาตุเฉย ๆ อนัตตาธาตุ อนัตตาธรรม มันก้อนธรรมดา ก้อนธาตุธรรมธาตุเฉย ๆ ไม่มีสัตว์บุคคลอยู่ในนั่นดอก.. ..จะไปรักเขา ไปชังเขา ไปชังอะไร คนโง่ ตั้งแต่ตาของเราก็ไม่มีคนอยู่ กายของเราก็ไม่มีคนอยู่นั่นน่ะ.. ..ตั้งสมมติบัญญัติขึ้นมาเรียกกันเฉย ๆ ในโลก..,
..สมถะกับวิปัสสนามันก็เป็นของคู่กันอย่างงี้ ถ้าใครได้สมาธิ สมถะเป็นเอง สมถะมันเป็นเองอยู่ เป็นอัตโนมัติ ทำไม่ทำก็เกิด
เมื่อตาเห็นรูป นี่แหละหนิถ้าเรามาถอด กาย ถอดเวทนาออกดู เห็นว่าไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคลตัวตนอยู่ในขันธ์ 5 ขันธ์ 5 ว่างจากสัตว์บุคคลตัวตนอยู่หนิ เรียกว่าวิปัสสนา รู้แจ้งซึ่งขันธ์ 5
เอ๊า เวลาอยู่เฉย ๆ ก็ ตามองไปเห็นรูป มองไปเห็นยายนั้น ถ้าเราพิจารณาหนิ ในขันธ์ของเรา ไม่มีสัตว์มีบุคคลตัวตนเราเขา ว่างเป็นอนัตตาธาตุ อนัตตาธรรม อยู่อย่างงี้
ถ้าเรามองไปเห็น กายของคนอื่นน่ะ ก็โอปนยิโกเข้ามาล่ะปัญญา ก้อนธาตุเฉย ๆ อนัตตาธาตุ อนัตตาธรรม มันก้อนธรรมดา ก้อนธาตุธรรมธาตุเฉย ๆ ไม่มีสัตว์บุคคลอยู่ในนั่นดอก
มีแต่เค้าสมมติว่ายายนั่นยายนี่ขึ้นมา เฉย ๆ เห็น จึงสักแต่ว่าเห็น จะไปรักเขา ไปชังเขา ไปชังอะไร คนโง่ ตั้งแต่ตาของเราก็ไม่มีคนอยู่ กายของเราก็ไม่มีคนอยู่นั่นน่ะ
คนเห็นกันก็สมมติเห็นกันเฉย ๆ สมมติว่าคนนั้นคนนี้เฉย ๆ เรากับเค้าก็สมมติว่าคนเฉย ๆ คนจริง ๆ ไม่มี มันจะอธิบายเจ้าของบั๊บ ๆ ๆ ๆ เลย
เห็นก็เห็นของไม่มี เห็นก้อนอนัตตาธาตุ อนัตตาธรรม เห็นก้อนอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เห็นขันธ์ 5 เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ขันธ์ 5 ของเราเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็เห็นขันธ์คนอื่น ก็เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ผู้เห็นก็ไม่มี สิ่งที่เห็นก็ไม่มี ไม่มีตัวตนสัตว์บุคคลอยู่นั่น จึงว่าเห็นสักแต่ว่าเห็นนั่น ไม่ใช่เราเห็นนั่นน่ะ เข้าใจมั้ยล่ะทีนี่
ถ้าถอดละสักกายทิฏฐิไม่ได้ จะมาพูดได้มั้ยอย่างงี้ เห็นสักแต่ว่าเห็นจะพูดได้มั้ย ไม่ใช่เราเห็น ถ้าในก้อนสกลกายเรา มันต้องรู้ในก้อนสกลกายว่าไม่มีเราซะก่อน ไม่มีตัวมีตน มีเรามีเขาซะก่อน จึงจะเรียกว่าไม่ใช่เราเห็น
ตาก็คือก้อนสกลกาย ตาหูจมูกลิ้นกายใจ ก็คือก้อนสกลกายหนิ จึงจะเรียกว่าเห็นสักแต่ว่าเห็น ไม่มีใครเห็น เราไม่มีอยู่ในนี่
แม้แต่นั่งสมาธิจิตสงบก็ไม่มีเรา ลมหายกายไม่มี ไม่มีเรา ไม่มีสัตว์บุคคลอยู่ในนี่ต้องเห็น นี่แหละสมาธิ เกิดปัญญารู้ว่าไม่มีสัตว์บุคคลอยู่ในนั่น
ปัญญาก็เกิดจากสมาธิ สมาธิอาศัยปัญญา ปัญญาอาศัยสมาธิ มันเนื่องอยู่ด้วยกันอย่างนี้ ตาเห็นรูปมันก็เกิด เห็นสิ่งที่ไม่มี ไม่มีอะไร ไม่มีเจ้าของนั่นแหล่ว
โอปนยิโก น้อมเข้ามาสู่ตนเอง สิ่งที่เห็นก็ไม่มี กายของคนอื่นก็ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนเราเขาหนิ ท่านเรียกว่าโอปนยิโก น้อมเข้ามาสู่ตนเอง
ตัวของเราก็ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนเราเขา ตัวของคนอื่นก็ไม่มี แต่มีแต่สมมติว่า ตั้งสมมติบัญญัติขึ้นมาเรียกกันเฉย ๆ ในโลก..
บางส่วนจาก พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ ๐๗. กายคตาสติ - CD จากงานสมโภชพระธุตังคเจดีย์
รับฟังเสียง https://youtu.be/ULckI2R-t5w?t=33m8s (33:08 - 37:18)
26.12.18
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment