พระไตรปิฎก ..เรากล่าวลมหายใจออก ลมหายใจเข้านี้
ว่าเป็นกายชนิดหนึ่งในพวกกาย เพราะฉะนั้นแล ในสมัยนั้น ภิกษุจึงชื่อว่า
พิจารณาเห็นกายในกาย..
หลวงตาศิริ อินฺทสิริ ..มีคนมาถาม ไม่ได้ปัญญา อานาปานสติ ได้ เราไม่รู้จักว่าลมหายใจก็คือกาย ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ ดินน้ำลมไฟหนิธาตุ 4 ก็คือกายของเรา ทำไมมีแต่ลม ไม่มีดินปนเข้าไปในนั่น เราไม่เห็น
จั๊งสั่น(อย่างนั้น) เค้าจะมีขนดัง(ขนจมูก) มากรองเอาหรือ เวลามันเข้าไป มันก็มีลม มีน้ำ ละอองน้ำเข้าไปด้วย ลมหายใจนี่แหละ อากาศ มันมีฝุ่นละออง มีละอองน้ำ ละอองอากาศ มีดินมีน้ำมีไฟ เข้าไปด้วย
ลมหายใจ มันมีธาตุเข้าไป ถ้าดูดีๆ ถ้าดูให้รู้จัก นี่แหละ สงเคราะห์เรียกว่ารูป เรียกว่ากาย "มีสัตว์บุคคลมั้ยล่ะฮึ" กายสักแต่ว่ากาย สติปัฏฐาน 4 พระพุทธองค์ไม่ได้ดูกายหยาบ ดูกายลม กายทั้งปวง กายทั้งปวงท่านว่า
หลวงตาก็มาคิด หนิเอ๊ กายทำไมถึงว่ากายทั้งปวง กายทั้งหมด อ๋อ ดินน้ำลมไฟ ก็มารวมที่ลมนี่เอง ลมหายใจนี่เอง เรียกว่ากายทั้งปวง หนิ ในนี้
ในนี้มันก็มีตัวญาณนะ ตัวญาณอีก ญาณคือตัวผู้รู้อาศัยอยู่ในลมหายใจ..
บางส่วนจากพระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ ๐๔.สติปัฏฐาน๔ (9:54 - 11:45)
https://youtu.be/V1Tkm6F9mn4?t=594
บางส่วนจากพระไตรปิฎก ..เรากล่าวลมหายใจออก ลมหายใจเข้านี้ ว่าเป็นกายชนิดหนึ่งในพวกกาย เพราะฉะนั้นแล ในสมัยนั้น ภิกษุจึงชื่อว่า พิจารณาเห็นกายในกาย..
http://etipitaka.com/read/thai/14/156
25.12.18
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment