1.1.18

การทำสมาธินี้ อาจให้โทษแก่ผู้ปฏิบัติได้ ถ้าผู้ปฏิบัติไม่ใช้ ปัญญา และก็ย่อมให้คุณแก่ผู้ปฏิบัติได้มาก ถ้าผู้ปฏิบัติเป็นผู้มี ปัญญา สมาธิก็จะส่งจิตไปสู่วิปัสสนา

BY Somchatchai IN No comments

หลวงพ่อชา สุภัทโท : ..การทำสมาธินี้ อาจให้โทษแก่ผู้ปฏิบัติได้ ถ้าผู้ปฏิบัติไม่ใช้ ปัญญา และก็ย่อมให้คุณแก่ผู้ปฏิบัติได้มาก ถ้าผู้ปฏิบัติเป็นผู้มี ปัญญา สมาธิก็จะส่งจิตไปสู่วิปัสสนา สิ่งที่เป็นโทษแก่ผู้ปฏิบัตินั้น ก็คือการที่ผู้ปฏิบัติหลงติดอยู่ใน อัปปนาสมาธิ ซึ่งเป็นความสงบลึก และมีกำลังอยู่นานที่สุด

เมื่อจิต สงบก็เป็นสุข เมื่อเป็นสุขแล้วก็เกิดอุปาทาน ยึดสุขนั้นเป็นอารมณ์ ไม่ อยากจะพิจารณาอย่างอื่น อยากมีสุขอยู่อย่างนั้น เมื่อเรานั่งสมาธิอยู่ นานๆ จิตมันจะถลำเข้าไปง่าย พอเริ่มกำหนดมันก็สงบ แล้วก็ไม่ อยากทำอะไร ไม่อยากออกไปไหน ไม่อยากพิจารณาอะไร อาศัย ความสุขนั้นเป็นอยู่

อันนี้เป็นอันตรายแก่ผู้ประพฤติปฏิบัติอย่างหนึ่ง จิตต้องอาศัยอุปจารสมาธิ คือกำหนดเข้าไปสู่ความสงบแล้ว พอสมควร ก็ถอนออกมารู้อาการภายนอก ดูอาการภายนอกให้เกิด ปัญญา

อันนี้ดูยากสักหน่อยหนึ่ง เพราะมันคล้ายๆ จะเป็นสังขาร ความปรุงแต่ง เมื่อมีความคิดเกิดขึ้นมา เราอาจจะเห็นว่าอันนี้มันไม่ สงบ ความเป็นจริงความรู้สึกนึกคิดในเวลานั้น มันรู้สึกอยู่ในความ สงบ พิจารณาอยู่ในความสงบ แล้วก็ไม่รำคาญ

บางทีก็ยกสังขารขึ้น มาพิจารณา ที่ยกขึ้นมาพิจารณานั้น ไม่ใช่ว่าคิดเอา หรือเดาเอา มัน เป็นเรื่องของจิตที่เป็นขึ้นมาเองของมัน อันนี้เรียกว่า ความรู้อยู่ใน ความสงบ ความสงบอยู่ในความรู้ ถ้าเป็นสังขารความปรุงแต่ง จิต มันไม่สงบ มันก็รำคาญ

แต่อันนี้ไม่ใช่เรื่องปรุงแต่ง มันเป็นความรู้สึก ของจิตที่เกิดขึ้นจากความสงบ เรียกว่าการพิจารณา นี่ปัญญาเกิด ตรงนี้..

บางส่วนจากพระธรรมเทศนา พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท) - ข้อควรระวัง ตัดตอนจาก การบรรยายที่ประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๐
http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/lp_cha/lp-cha_18.htm

0 comments:

Post a Comment