สมเด็จพระญาณสังวร ..อโรคยา ปรมาลาภา ..ทรงมุ่งหมายเอาถึงโรคคือกิเลส.. ..สิ้นกิเลสจึงจะเป็น อโรคยะ คือความไม่มีโรค ความไม่มีโรคเป็นลาภอย่างยิ่งทางพุทธศาสนาจึงมุ่งถึงความไม่มีโรคคือกิเลส ก็คือจิตว่างกิเลส..//
..เมื่อบริโภคอาหารเข้าไปก็อิ่มหนำสำราญก็รู้สึกเป็นสุข และเพราะเหตุที่ได้มีอาหารบริโภคอิ่มหนำสำราญ กับทั้งได้รับกายบริหาร ทั้งที่เป็นไปโดยธรรมชาติ และทั้งที่การบำรุงให้มีขึ้น ร่างกายมีอนามัยมีผาสุก ก็รู้สึกว่าเป็นสุข
เพราะฉะนั้นในสมัยพุทธกาลนั้น จึงได้มีแสดงถึงพราหมณ์ผู้หนึ่งได้เอามือลูบกายของตน ซึ่งเป็นกายที่มีอนามัยจึงมีความแข็งแรง ไม่รู้สึกว่าเป็นโรคอะไร ว่านี่แหละคือนิพพาน ก็คือหมายเอาความที่ไม่มีโรคทางกายปรากฏ กายจึงแข็งแรง พราหมณ์ก็ถือว่านี่แหละคือนิพพาน
ฝ่ายพระพุทธเจ้าก็ได้ตรัสเป็นพระพุทธภาษิตไว้ว่า อโรคยะ ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอย่างยิ่ง หรือลาภทั้งหลายมีความไม่มีโรคเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าทรงมุ่งหมายเอาถึงโรคคือกิเลส เป็นต้นว่าความดิ้นรนทะยานอยากของจิตใจ สิ้นกิเลสจึงจะเป็น อโรคยะ คือความไม่มีโรค
ความไม่มีโรคเป็นลาภอย่างยิ่งทางพุทธศาสนาจึงมุ่งถึงความไม่มีโรคคือกิเลส ก็คือจิตว่างกิเลส ที่เรียกว่าจิตว่าง อันความว่างกิเลสนี้ได้มีพระพุทธภาษิตแสดงไว้เช่น นิพพานัง ปรมัง สุญญัง นิพพานเป็นความว่างอย่างยิ่ง ก็หมายถึงความว่างกิเลส..
พระธรรมเทศนา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก - อโรคยา ปรมาลาภา
http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/somdej/sd-001.htm
13.1.18
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment