หลวงตาศิริ : ..เป็นผู้จำแนกแจกธรรม ธรรมทั้งหลายย่อลงมาเหลืออยู่กายกับใจ ธรรมทั้งหลายย่อลงมาอยู่ รูป1นาม4 คือขันธ์5 ย่อลงมาเรียกว่ากายกับใจเท่านี้ เรียกว่ารูปธรรมนามธรรม แจกธรรมท่านไม่ได้ไปแจกที่อื่น แจกกายเจ้าของออกดู เนี่ยแจกธรรม
แจกรูปธรรมออกดู รูปธรรมก็คือรูปกาย กายเจ้าของก็มีอยู่ ประกอบไปด้วยธาตุ4นี่แหละ ดินน้ำลมไฟ แจกดินแจกน้ำแจกลมแจกไฟออกมาดู เบื้องต้นก็หลงกาย เบื้องปลายก็หลงใจ ท่านจึงให้แจกออกดู เพื่อให้หายโง่ ให้หายหลง
อวิชชารู้ไม่จริง หลงว่ากายหนิ เป็นสัตว์เป็นบุคคลเป็นตัวเป็นตนเป็นเราเป็นเขาอยู่หนิ หลงว่ารูปธรรมนี่แหละ ท่านจึงให้จำแนกแจกธรรมออก รูปธรรมนามธรรม แจกกายกับใจออก
กายก็แจกออกเป็น ธาตุ4 ดินน้ำลมไฟ ก็อย่างที่อธิบายให้ฟัง แจกแล้วก็ถามดู ดินเป็นคนหรือ คนเป็นดินหรือ ดินมีอยู่ในคนหรือ คนมีอยู่ในดินหรือ ไหนคนอยู่ไหนล่ะ ที่เขาเรียกว่าคน คนอยู่ที่ไหน แจกออกดู
ที่นี้เอาน้ำ น้ำเป็นเราหรือ ใช่ไหมหนิ ถามเจ้าของดู น้ำเลือดน้ำหนองน้ำเหลือง 12 อย่างนั่นน่ะ เป็นเราไหมล่ะน้ำหนิ น้ำเป็นเราไหม เราเป็นน้ำนั่นไหม น้ำมีอยู่ในเราไหม เรามีอยู่ในน้ำนั่นไหม
เรากับตนก็คือคนเดียวกันนั่น เรียกคนละสำนวนภาษาเฉยๆ สำนวนของพระสูตรเฉยๆ เรียกแทนกันได้ ตนกับเราน่ะ คืออันเดียวกันไวพจน์เดียวกัน เรียกแทนกันได้ ให้เข้าใจอย่างนี้
ถาม4คำถาม ถามอยู่ แยกออก แจกธรรมหนิ แจกอย่างนี้ แจกธรรม ถ้าไม่เข้าใจ จะไปแจกได้ยังงัย นี่ภควาเป็นผู้จำแนกแจกธรรม
ธรรมทั้งหลาย ย่อลงมาเหลืออยู่กายกับใจ แจกกายออกก่อน ถ้าดินน้ำลมไฟ ไม่เป็นคนไม่เป็นสัตว์เป็นคนเป็นตัวเป็นตนเป็นเราเป็นเขา จึงจะเป็นสัมมาทิฏฐิ ความเห็นถูกต้องขึ้น
ถ้ายังเห็นว่าเป็นตัวเป็นตน เป็นสัตว์เป็นคนเป็นเราเป็นเขา ก็แยกออกดูอยู่งั้นแหละ แจกออกดูอย่างนี้ จึงจะได้เป็นภควาเหมือนกับพระพุทธเจ้า ถ้ามันแจกหยาบๆไม่ออกก็แยก
ดินมีอยู่ 20 อย่าง แยกออก น้ำมีอยู่ 12 อย่าง แยกออก น้ำเลือดเป็นเราไหม เราเป็นเลือดไหม เลือดมีอยู่ในเราไหม เรามีอยู่ในเลือดไหม ถามดูอยู่งี้ แยกออกดูอยู่งี้ นี้ภควา จำแนกแจกธรรม
ใจก็คือนาม4 นั่นล่ะ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แจกใจออกมาเป็นนาม 4 หนิ แจกแยกใจออกมาเป็นจรณะจิต จิตมี 89 ดวง จิต 121 ดวง จิต 75 ดวง อะไรก็ว่าไป อันนั้นเป็นจรณะจิต เป็นอาการของจิต เป็นกิริยาอาการของจิต
ถอดจรณะจิตออกหมด ถอดเจตสิกออกหมด ก็เหลืออยู่ตัวพุทโธตัวเดียวเท่านั้น นี่แหละแจกธรรม จำแนกแจกออก จิตพวกนั้นเป็นจรณะจิต จิตที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับ จิตสมุทัย จิตสมมติเฉยๆ จิตปฏิรูป จิตปลอม จิตเทียมเฉยๆ ไม่ใช่จิตแท้ใจเดิมของเรา
ต้องแยกออกมาให้เห็น นี่แหละ จำแนกแจกธรรม แจกออกแล้วก็มาเห็นรูปธรรมนามธรรมหนิ อิงอาศัยกันเกิด เรียกว่า อัญญมัญญปัจจัย เป็นปัจจัยอิงอาศัยกันเกิด
วันหนึ่งวันหนึ่งรูปกับนาม อิงอาศัยกันเกิด เกิดขึ้นแล้วก็ดับ เกิดขึ้นแล้วก็ดับ อยู่อย่างนี้ ไม่มีตัวตนสัตว์บุคคลอยู่ในนั่น ขันธ์5 นาม4 รูป1 นาม4 ไม่มีสัตว์บุคคล
ใจของเราก็ถอดออกมาหมด จนเห็นว่ามันว่างจากสัตว์บุคคล ไม่มีสัตว์บุคคล ใจก็เป็นใจล้วนๆ นั่นน่ะ จิตก็เป็นจิตล้วนๆ จิตไม่มีเจ้าของ ขันธ์5 ก็เป็นขันธ์5 ล้วนๆ ขันธ์5 ไม่มีเจ้าของ มีแต่สมมติชื่อว่าขันธ์5 เฉยๆ ให้เห็นอย่างนี้ จึงเรียกว่า ภควา นี่แหละภควา..
บางส่วนจาก พระธรรมเทศนา หลวงตาศิริ อินฺทสิริ ๐๙. พุทธคุณ - CD จากงานสมโภชพระธุตังคเจดีย์
ฟังเสียง https://youtu.be/RqHvtJ4cCpQ?t=37m14s
(37:14 - 42:30)
12.12.17
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment