ทำอย่างไรจึงจะพ้นไปจากอำนาจแห่งกิเลสตัณหา เหล่านี้ได้ คิดอย่างนี้ ดำริอย่างนี้ มันจึงถูกแนวทางของนักบวช มันก็เป็นขั้นตอนอยู่อย่างนี้ ในระหว่างนักบวชกับผู้ครองเรือน

หลวงปู่เหรียญ : ..ได้เงินได้ทองมาแล้ว เราก็จะเอามาทำบุญทำทานบ้าง เลี้ยงครอบครัวบ้าง เสียภาษีอากรให้แก่รัฐบาลบ้าง เลี้ยงเพื่อนเลี้ยงฝูงที่มาเยี่ยมเยือนบ้าง แล้วก็ทำบุญอุทิศให้แก่ญาติพี่น้อง ผู้วายชนม์ ไปสู่โลกหน้าบ้างอะไรหมู่นี้นะ

บริจาคทานในสมณพราหมณ์ ผู้ประพฤติชอบ ผู้มีศีลธรรมอันดีงาม นี่การคิดอย่างนี้นะ ท่านก็เรียกว่าคิดดี คิดได้ประโยชน์ทั้งในปัจจุบันและประโยชน์ในภายภาคหน้าด้วย แต่ว่าคิดแล้วก็ต้องลงมือทำ นี่พูดถึงสำหรับผู้ครองเรือนนะ

ถ้าเป็นนักบวชหากไปคิดอย่างนั้น ไม่ถูกต้องเลย ผิดทางของนักบวช มันต้องห้ามความคิดเช่นนั้น ก็ต้องมาคิด ทำอย่างไรหนอเราจึงจะพ้นจากทุกข์ในสงสารนี้ไปได้ จึงจะพ้นจากความแก่ ความเจ็บ ความตายอันนี้ไปได้

ทำอย่างไรจึงจะพ้นไปจากอำนาจแห่งกิเลสตัณหา เหล่านี้ได้ คิดอย่างนี้ ดำริอย่างนี้ มันจึงถูกแนวทางของนักบวช มันก็เป็นขั้นตอนอยู่อย่างนี้ ในระหว่างนักบวชกับผู้ครองเรือน เพราะฉะนั้นต้องดำริให้มันถูกต้อง..

บางส่วนจาก พระธรรมเทศนา หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ - สติและปัญญาตามรักษาจิต 20 ก.พ. 32
https://youtu.be/4eT5W5s8W1Y?t=8m04s
(8:04 - 10:04)